ตอน: “กลียุค” กำลังมาเยือน
สมัยทำงานอยู่ที่เมืองสะแกกรัง(อุทัยธานี) เมื่อ 30 กว่าปีที่ผ่านมา ผมมีเพื่อนเป็นข้าราชการกรมฯ หนึ่งในกระทรวงเกษตรฯ ที่หายใจเข้าหายใจออกเป็นเรื่องการเมือง
เวลาที่สนทนาธรรมกันครั้งใด เพื่อนคนนี้ต้องร่ายยาวถึงอุดมการณ์ความเท่าเทียมกันในความเป็นมนุษย์ ความรักชาติ การรับใช้บ้านเมืองด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ทั้งในฐานะข้าราชการและนักการเมือง
ผมแอบรู้เหตุผลของการเวียนสมัครลงรับเลือกตั้ง ต้องลาออกจากราชการ เมื่อไม่ได้รับเลือกตั้ง เพื่อนคนนี้ก็ขอกลับเข้ารับราชการใหม่ จำได้ว่าประพฤติปฏิบัติเช่นนี้ 3 ครั้ง 3 ครา ณ เวลาที่ผมได้รับรู้ในเวลาหลายปีด้วยเหตุผลลึกๆว่า
เพื่อนคนนี้เคยหนีเข้าป่าในสมัย 6 ตุลาฯ หรือ 14 ตุลาฯ ก็ไม่แน่ชัด จนกลับคืนสู่สังคม แต่อุดมการณ์รักชาติ ต้องการร่วมพัฒนาชาติไทยยังไม่จางไปจากสำนึก จนได้เป็นข้าราชการกรมฯ ที่ต้องใกล้ชิดรู้ความทุกข์ยากของราษฎร โดยเฉพาะเกษตรกร กสิกร ปศุกร
และมัจฉกร….ฮา!
แล้ววันหนึ่งเมื่อถึงวันที่เพื่อนคนนี้ “ถอดใจ” ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการลาออกจากราชการเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตาดำๆ” ผมก็ขอสัมภาษณ์เป็นการส่วนตัวเพื่อนำไปออกอากาศทางสถานีวิทยุปักกิ่ง…ฮา! และหนังสือพิมพ์ซินเสียนเยอะเป้า…ฮา!
เพื่อนผู้รักชาติรักการเมืองจนเข้ากระแสเลือด ตอบคำถามผมอย่างลูกผู้ชาย ซึ่งทำให้ผมตกตะลึงและพรึงเพริดไปในโอกาสเดียวกัน
“ทำไมบรรดาเศรษฐี เจ้าพ่อ ทรชน พ่อค้า ผู้รับเหมา นักเลง อดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ จึงได้มุ่งมาดปรารถนาเข้าไปรับใช้ประเทศชาติ บ้านเมือง โดยเริ่มไต่เต้าตั้งแต่ อบต., เทศบาลตำบล, เมือง, นคร, อบจ, จนมาถึงส.ส., ส.ว. และส.ต. (ส.ส.สอบตก… รู้นะว่าคิดอะไรอยู่?) ทั้งๆที่ค่าใช้จ่ายในการหาเสียง ซื้อเสียง ค่าจ้างยิงทิ้งคู่แข่งหรือผู้สมัครฝ่ายตรงข้าม ค่าใส่ซองช่วยงานศพ งานแต่งงาน งานบวช งานขึ้นบ้านใหม่ งานวันเกิด ฯลฯ ของบรรดาหัวคะแนนและบรรดาประชาชนตาดำๆ ในเขตเลือกตั้งที่มาแบมือขอกันสลอน มากมายมหาศาลเกินกว่าเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง เงินเก๋าเจี๊ยะ เงินส่วย ตลอดอายุ ส.ส. 4 ปี หนอ.? ขอได้โปรดอธิบายขยายความด้วยเถิดจะเกิดผล” ผมปุจฉาไปดั่งนั้น
เพื่อนรักร่วมอาชีพราชภัฏของผม ผู้วุ่นวายกับการลาออกจากราชการ แล้วลงสมัคร ส.ส. พอ “สอบตก” [ซึ่งไม่เคยมีสิทธิ์ได้สอบซ่อม]ก็เวียนกลับมาอ้อนวอนขอเข้ารับราชการในตำแหน่งเดิม ที่เดิม เงินเดือนเท่าเดิม ครั้นพอได้ยินเสียงปี่กลองเลือกตั้งดังระงมในเทศกาลต่อไป เพื่อนรักร่วมอาชีพของผมก็ประพฤติดังเดิม จนเกษียณอายุราชการด้วยตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ โดยไม่เคยได้ย่างเหยียบบันไดรัฐสภาทั้งแห่งเดิมและแห่งใหม่…วิสัชนาว่า….
“พี่คงไม่ทราบมาก่อนว่า รัฐสภาคือศูนย์รวมงบประมาณของประเทศ เป็นแหล่งเงินที่มากมายมหาศาลที่สุดบนผืนแผ่นดินไทย และเป็นแหล่งที่นักการเมืองจะรู้ได้ว่าจังหวัดของตนจะได้รับงบประมาณในโครงการใด ทั้งในปีนี้ ปีหน้า ปีโน้น โครงการใดตั้งอยู่ที่ไหน? บรรดา ส.ส.จึงสามารถไปบอกกับชาวบ้านตาดำๆได้ว่า ผมจะสร้างสะพาน ถนน ขุดคลองให้หมู่บ้านตำบล อำเภอนั้นๆ ได้ในวันเดือนปีใดๆ…ฮา!”
“นักการเมืองตัวเล็กๆ บวชใหม่ อ่อนพรรษาก็หากินกับการสัมปทาน ประมูลก่อสร้างโครงการเล็กๆ งบประมาณระดับ 10 ล้าน 100 ล้านในต่างจังหวัด ในจังหวัดของตนไปพลางๆเป็นการฝึกงานไปก่อน พอพรรษาแก่กล้า ปีกกล้าขาแข็งได้เป็นกรรมาธิการ เป็นรัฐมนตรีช่วย รัฐมนตรีว่าการ ก็สามารถหาประโยชน์จากโครงการระดับประเทศ งบประมาณเป็นพันล้านแสนล้าน โดยไม่มีบริษัทผู้รับเหมาหน้าไหนหาญกล้าเข้ามาเทียบรัศมีแข่งบารมี เพราะถ้าจ่ายเงินฮั้วหรือข่มขู่กันแล้วยังกล้าเข้ามาหยามน้ำหน้ากัน ก็ต้องยิงทิ้งให้รายอื่นๆเข็ดขยาด”
“นี่เป็นข้อสังเกตว่าทำไมในรัฐสภาของบางประเทศในเอเชียจึงเต็มไปด้วยพ่อค้า ผู้รับเหมา นักเลง เจ้าพ่อซุ้มมือปืน”
“ผลประโยชน์ที่ติดตามมาอีกในตำแหน่ง ส.ส. หรือตำแหน่งอื่นๆ ที่ยิ่งใหญ่กว่า ส.ส. มากมายจนเกินกว่าจะสาธยายได้หมดสิ้นในระยะเวลาสั้นๆ และเป็นผลประโยชน์จากความทุจริตคิดคดทั้งสิ้น ซึ่งผมอยากจะเข้าไปกวาดล้าง สะสางความโสโครกของนักการเมือง โดยเฉพาะระดับรัฐมนตรี” เพื่อนรักทำท่าเหมือนจะหมดแรงบรรยาย
ผมจึงต้องปล่อยให้เขานั่งเหม่อลอย ฝันหวานในการที่จะสืบสาน อุดมการณ์เพื่อบ้านเมือง
เมื่อประมวลข้อมูล เรื่องราวที่เพื่อนผู้รักการเมืองและมุ่งมั่นที่จะเข้าไปทำความสะอาด “ตลาดการเมืองของประเทศ” ผมถึงตาสว่างและเข้าใจแล้วว่า ทำไมนักการเมืองผู้ประกาศว่ารักชาติบ้านเมือง อยากจะสร้างความเจริญให้กับประเทศ อยากจะฝากผลงานเอาไว้ให้เป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล จึงต้องแก่งแย่งแข่งดีกันถึงระดับเอาเป็นเอาตาย
เพื่อให้ได้โอกาส “เจาะท้องพระคลังของประเทศ” เข้าไปกอบโกยโกงกินกันจนพุงกาง พุงหลาม จนถึงขั้นพุงแตกตายคาตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่โคตรโกง รัฐมนตรีว่าการกอบโกยและโกงกิน รัฐมนตรีช่วยว่าการโกงกินจนตัวโก่ง สมาชิกสภาผู้แทนทรชนคนชั่วของแผ่นดิน
………………………………