นครสวรรค์ เมืองแห่งศิลปะ
เมื่อวันอังคารที่ 7 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา เทศบาลนครนครสวรรค์ ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ ศูนย์ศิลปะแฟรี่ นครสวรรค์ จัดให้มีการเสวนาเรื่อง”มองอนาคต นครสวรรค์” นครแห่งศิลปะ และศิลปะเพื่อการพัฒนาเมือง สู่…ความยั่งยืน
ในงานนี้นอกจากจะได้พ่อเมืองคนใหม่ล่าสุด นายทวี เสริมภักดีกุล มาร่วมเสวนาด้วย เพื่อจะนำเมืองนครสวรรค์เข้าไปชิงตำแหน่งการเป็นเจ้าภาพจัดงาน…Thailand Bienale , Nakhosawan ต่อจากจังหวัดเชียงราย แล้ว ยังมีผู้มีชื่อเสียงทางด้านงานศิลปะระดับชาติอย่าง อ.กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรมและสื่อผสม) อีกท่านหนึ่งคืออาจารย์ฉัตรพงษ์ ชื่นฤดีมล ศิลปินสถาปนิก ศิลปินร่วมสมัยดีเด่นรางวัลศิลปาธร ปี 2563 มาร่วมการเสวนา กับวิทยากรท้องถิ่นรวมทั้งศิลปินของเมืองอีกหลายคน มาช่วยกันระดมความคิด ที่จะเพิ่มศักยภาพของเมืองนครสวรรค์ ให้มีสีสันทางด้านงานศิลปะ เพื่อดึงดูดให้คนทั้งประเทศ และจากทั่วโลกเข้ามาเยี่ยมชมเมืองนครสวรรค์ โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครนครสวรรค์
ถ้างานนี้ประสบความสำเร็จ ผลอีกอย่างหนึ่งที่จะตามมาคือการท่องเที่ยว จะดูดเม็ดเงินเข้าจังหวัดด้วย
นครสวรรค์ ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องมาช่วยกันแก้…วิกฤต ความเงียบเหงาของเมือง ให้กลับมาคึกคักกันอีกครั้ง หลังจากซบเซาทางเศรษฐกิจมานาน จนตึกรามบ้านช่องในเมืองที่เคยคึกคักกันทั้งวัน ทั้งคืน เงียบสงบมานาน ปิดหน้าบ้านกันเป็นทิวแถว เสมือนเมืองร้างเลยละ
งานนี้ ต้องชื่นชมผู้มีส่วนร่วมทุกคน ที่สนใจใคร่ในการพัฒนาอย่างเอาจริงเอาจัง ตัวศิลปินจากต่างบ้านต่างเมืองเมื่อได้มาเยี่ยม มาชมตามตรอกซอกซอยของเมืองกันแล้ว
ถึงกับ…ว้าว ในทรัพยากรที่เรามีมากันมาตั้งแต่อดีต ไม่ว่าอาคารบ้านเรือน แพที่เป็นที่อยู่อาศัย ที่ทำมาค้าขายริมแม่น้ำน่าน ถนน แม่น้ำ ลำคลอง หนองบึง อาหารการกิน เครื่องมือประกอบอาชีพต่างๆในอดีต
ล้วนนำมาสร้างให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางด้านงานศิลปะได้ทั้งสิ้น
ในงานนี้…ทุกคนที่เข้าร่วมการเสวนา มองไปในทิศทางเดียวกันว่า ทรัพยากร และบุคลากรที่เรามีกัน พร้อมที่จะเนรมิตให้ตลาดปากน้ำโพ เป็นเมืองนำร่องสร้างให้เป็นเมืองแห่งศิลปะได้
งานศิลปะ เวลาเราพูดถึง เราก็จะนึกถึงภาพวาด งานปั้น เป็นหลักเท่านั้น แต่ในมุมมองของศิลปิน เขามองทุกอย่างเป็นผลงานทางศิลปะทั้งสิ้น
แม้นแต่ก้อนหิน เพียงก้อนเดียว ที่มีวางอยู่ตามภูเขา หรือริมถนนหนทาง ก็มองให้เห็นเป็นศิลปะได้ ยิ่งที่ใส่เรื่องราว Story เข้าไปด้วย มูลค่าพิ่มจะเกิดขึ้นมาทันที
ศิลปินที่เข้ามาร่วมคิด ร่วมทำ ยังเสนอผลงานให้ฟรีๆกับคนนครสวรรค์ โดยไม่คิดมูลค่า ตรุษจีนปีนี้ก็คงจะได้เห็นผลงงาน ศิลปกรรม มาตั้งโชว์กันกลางเมืองอย่างน้อยก็ชิ้นสองชิ้น
ครับ…ทุกงานก็ต้องใช้เงินด้วย ผมก็เสนอท่านนายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครสวรรค์ ว่าให้เป็นแกนนำเรียกพ่อค้าวาณิชของเมืองมานั่งคุยเพื่อขายไอเดียให้เขาเข้าใจ เมื่อเข้าใจแล้วก็ขอให้ให้การสนับสนุน ตั้งเป็นกองทุนเพื่อการพัฒนาเมือง เป็นการคืนกำไร ให้กับบ้านเมืองที่มาตั้งรกรากทำมาหากินกันจนร่ำรวยไปเป็นทิวแถวแล้ว
งานครั้งนี้ก็วัดใจคนที่มีฐานะของเมืองด้วยว่าจะให้การสนับสนุน และเห็นคุณค่าทางศิลปะไหม ?
ติดตามดูกันนะครับว่า บ้านเมืองเราจะมีนวัตกรรมใหม่เกิดขึ้น เพื่อแก้วิกฤต ความเงียบเหงาของเมืองได้ไหม ?
ตามดูกัน !?!
……………………………………
