40.2 C
Nakhon Sawan
วันศุกร์, มีนาคม 24, 2023
spot_img

ตอน ควันพิษฟุ้งฟ้าทั่วหล้า…ไทย!!

      เมื่อปี 2526 ถึง 2534 ผมไปทำมาหากินอย่างลุ่มๆดอนๆอยู่ในดินแดนเมืองน่าน   

      ได้ย่างเหยียบเข้าเขตแคว้นแดนน่านในฤดูที่ ‘น่านหนาว’

     ได้สัมผัสความเหน็บหนาวที่เย็นยะเยือกเข้าไปถึงกระดูกดำ   รู้สึกแสนสุขที่ไม่ต้องดิ้นรนขวนขวายไปตากอากาศเสาะหาความเย็นยะเยือกจากยอดดอยใดๆในฤดูหนาว    เหมือนที่หนุ่มๆสาวๆและนักท่องเที่ยวยุคนี้นิยมไปเยือน

     ครั้นผ่านฤดูกาลหน้าหนาวก็ย่างเข้าฤดูร้อนซึ่งร้อนตับแลบและมีหิมะโปรยปรายประกอบ   จนไม่สามารถตากเสื้อผ้า  ตากมะม่วงแผ่นมะม่วงกวนได้อย่างมีความสุข  เพราะหิมะดำที่โปรยปรายเป็นสายฝนลงมาทุกเวลาเช้าสายบ่ายค่ำดึก   เป็นเถ้าถ่านจากใบไม้ใบหญ้าจากการเผาป่าเผานาเผาไร่

     ละอองขี้เถ้าสีดำสนิทของเศษใบไม้ใบหญ้าที่ลอยฟุ้งขึ้นสู่ท้องฟ้าจากอำเภอท่าวังผา  เชียงกลาง  ทุ่งช้าง  นาน้อย  นาหมื่น  เวียงสา  ฯลฯ  ต่างพากันลอยละล่องฟ่องฟ้า  ร่วงลงมาสู่พื้นแผ่นดินในอำเภอเมืองน่านและอำเภอภูเพียง  แช่แห้ง (อำเภอเกิดใหม่ล่าสุดในปัจจุบัน)  อย่างพร้อมเพรียงกัน

     ตามถนนรนแคม  อาคารบ้านเรือนของชาวอำเภอเมืองน่าน  ซึ่งน่าจะได้ประสบพบพานในทุกอำเภอ   จะระดะไปด้วยเศษขี้เถ้าใบไม้ใบหญ้าสีดำสนิท  ซึ่งเป็นผลผลิตจากการเผานาเผาป่าเผาไร่ของชาวเขาชาวดอย   และชาวพื้นราบในทุกช่วงฤดูร้อนฤดูแล้งของทุกปี

      เสื้อผ้าที่ตากไว้ตามราวลวดจะแห้งเร็วรวดด้วยความร้อนของสภาวะอากาศ  แต่จะดาษดาไปด้วยรอยดำๆของเถ้าถ่านใบไม้ใบหญ้าที่โปรยปรายลงมาจากฟากฟ้าทุกวารวันโดยไม่เลือกเวลา

    ก่อนจะเก็บเสื้อผ้าที่ตากเอาไว้กลางแจ้ง  ต้องสะบัดต้องปัดผ้าผ่อน  ก่อนที่จะพับเก็บเข้าไว้ในเคหาในยามเย็น

   ที่เลวร้ายกว่านั้นคือคุณภาพของอากาศในฤดูเผาป่า  ในยามที่มองขึ้นไปบนท้องฟ้า  จะเห็นละอองหิมะดำโปรยปรายเป็นสายจากฟ้าสู่ดินเป็นภาพที่เจนตาของชาวประชาเมืองน่าน

        ทว่าอากาศที่ปวงประชาหายใจเข้าไปในปอดทุกวารวัน  ยิ่งเลวร้ายกว่าหิมะดำทุกเวลาทุกนาทีทุกวี่วัน   จนกว่าจะหมดฤดูกาลเผาป่าในฤดูร้อน

        อากาศที่อบอวลไปด้วยกลิ่นควันไฟกลิ่นใบไม้ไหม้  กลิ่นฟืนติดไฟฟุ้งอยู่ในอากาศรอบกายทุกเวลาเช้าสายบ่ายเย็นค่ำดึกดื่นเที่ยงคืนรุ่งสาง        

       กลิ่นควันไฟในอากาศในเมืองน่าน  ไม่เคยจืดจางร้างราไปให้คิดถึง   มีแต่จะเข้มข้นขรึมขลังดังกับว่าชาวประชาชื่นชมหรือนิยมก็ไม่ปาน

      แต่ก็ต้องจำใจสูดดมหรือหายใจเอาอากาศที่ฟุ้งตลบด้วยกลิ่นควันไฟจากการเผาป่านาไร่ในทุกอำเภอของเมืองน่านนคร  เข้าไปในปอดตลอดฤดูเผาป่า

         เพราะตัวอำเภอเมืองน่าน   ตั้งอยู่ตรงใจกลางพื้นที่  ที่เป็นแอ่งกระทะ  ทำให้ควันไฟเถ้าถ่านจากการเผาผลาญป่า เผานาฌาปนกิจไร่  ม้วนตัวพรั่งพรูลงสู่ตัวจังหวัดเป็นศูนย์กลางของพื้นที่

         ชาวเมืองน่านจึงต้องจำใจหายใจเอาควันพิษเข้าไปในปอดตลอดฤดูร้อน

        ทุกฤดูเผาป่า  ประชาชนพลเมืองชาวน่านจะมีอาการคล้อยตามกันเป็นหนึ่งเดียว  ไม่แตกฉานซ่านเซ็นเป็นอื่นโดยพร้อมเพรียงกัน  ด้วยอาการแสบปอด

         เป็นความทุกข์ที่ไม่สามารถจะหลบลี้หนีได้พ้น   โดยเฉพาะคนจนๆที่ไม่มีห้องหับในอาคารบ้านเรือนที่ปิดสนิท  และติดตั้งเครื่องปรับอากาศเครื่องกรองอากาศหรือเครื่องฟอกอากาศ

        ทางราชการไม่สามารถสกัดกั้นการเผาๆๆๆๆของราษฎรและเกษตรกรให้อยู่หมัดได้  เพราะพื้นที่ท้องนาป่าเขาลำเนาไพรในเมืองน่าน  กว้างขวางกว้างไกล  เกินกำลังของบรรดาข้าราชการที่มีสำนึกมโนธรรมตามหน้าที่  จะติดตามห้ามปราม  ตามสกัดกั้นจับกุม  ควบคุมมือเผามาลงโทษตามกฎบ้านระบิลเมืองได้ง่ายๆ

               เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นข้าราชการส่วนกลาง   ส่วนภูมิภาค   ส่วนท้องถิ่นในเมืองน่านหรือเมืองไหนๆ  ต่างก็ไม่จริงจังจริงใจกับการบังคับใช้กฎหมายให้เคร่งครัดศักดิ์สิทธิ์

         ต่างก้มหน้ายอมรับชะตากรรมของตนไปอย่างหน้าชื่นตาบานตลอดมา

         อัตราการเจ็บไข้ได้ป่วยของผู้คนด้วยโรคทางเดินหายใจในแต่ละปีในแต่ละจังหวัดในภาคเหนือจึงสูงลิ่ว   โดยรัฐบาลหรือข้าราชการนักการเมืองประชาชนไม่เคยตระหนักถึงอันตรายในประเด็นนี้

         การโฆษณาประชาสัมพันธ์  ประกาศ  เรียกร้อง  วิงวอน  ร้องขอ  ข่มขู่ให้เกษตรกรและมวลมหาประชาชน  เลิกเผา  งดเผาตอซังฟางข้าว  เผาไร่เผาสวนเผาขยะมูลฝอยเผาไร่อ้อยเผา… ฯลฯ

         ก็ดำเนินไปอย่างแกนๆ ทำไปตามหน้าที่  กำชับกันไปเป็นพิธี  แต่ไม่มีการ ‘เชือดไก่ให้ลิงดู’   ไม่มีการจับกุมคุมขังผู้เผานาป่าเขาไร่สวนอย่างเป็นเรื่องเป็นราว   ให้สังคมได้เห็นได้รับรู้ได้กลัวเกรง

        ตั้งหน้าตั้งตาแต่จะจัดการแต่ปลายเหตุด้วยการซื้อเครื่องมือ  เครื่องจักรกล  ยานยนต์เพื่อฉีดน้ำดับไฟ  เพิ่มจำนวนพนักงานดับไฟป่าซึ่งบางทีหาตัวตนไม่ได้   แต่งบประมาณถูกจัดถูกใช้ไปจนเกลี้ยงเกลาทุกปีไป

        หน่วยงานราชการไม่ได้มีความสุขกับการบริหารพล่าผลาญงบประมาณในการแก้ไขวาตภัย อุทกภัยเท่านั้น

         แต่อัคคีภัยในท้องไร่ท้องนาป่าเขาก็เปรียบเสมือนขนมหวานของข้าราชการนักการเมือง

ไทย…ตลอดมา !!!

 

—————————————

ติดตามเราที่

149แฟนคลับชอบ
spot_img

ข่าวลาสุด