วันที่ 2 มีนาคม 2566 เวลา 09.30 น. ที่หอประชุมเทวสภา สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 8 นครสวรรค์ นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เป็นประธานนำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ สังกัดกระทรวงแรงงาน วางพานพุ่มดอกไม้สดถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ “วันพระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย” จากนั้นประธานในพิธีฯ นำผู้ร่วมพิธีกล่าวคำถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ นอกจากนี้ทางจังหวัดได้จัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติ “พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย” และมาตรฐานฝีมือแรงงาน เพื่อกระตุ้นให้แรงงานไทยตระหนักถึงความสำคัญในการ พัฒนาตนเองให้มีมาตรฐานฝีมือเพื่อเข้าสู่กระบวนการจ้างงาน และสร้างรายได้ที่เหมาะสม รวมถึงให้ทุกภาคส่วน ตระหนักถึงความสำคัญของมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารด้านมาตรฐานฝีมือแรงงานสู่สาธารณชน
คณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 กำหนดให้วันที่ 2 มีนาคมของทุกปี เป็นวันพระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย หรือวันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระราชสมัญญา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรทรงเป็นพระบิดามาตรฐานแห่งการช่างไทย ด้วยพระปรีชาสามารถทางด้านการช่าง ทรงเป็นที่ประจักษ์ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ทรงประดิษฐ์ของเล่น รวมทั้งเรือใบ ที่ใช้ในการแข่งขันกีฬาแหลมทอง กังหันน้ำชัยพัฒนา ตลอดจนการตั้งโรงเรียนพระดาบส เพื่อสอนวิชาชีพช่างแก่เยาวชน และผู้ด้อยโอกาส
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงสนพระราชหฤทัยและทรงมีพระปรีชาสามารถหลายด้าน งานช่างเป็นงานด้านหนึ่งที่ทรงสนพระราชหฤทัย และทรงมีฝีพระหัตถ์เป็นเยี่ยมมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ทั้งด้านช่างไม้ ด้านช่างโลหะ ด้านอิเล็กทรอนิกส์ หรือแม้แต่ด้านเครื่องยนต์ ตลอดจนทรงตั้งโรงเรียนพระดาบส เพื่อสอนวิชาชีพช่างให้แก่เยาวชน รวมทั้งผู้ด้อยโอกาสทั่วไปและทรงพระปรีชาสามารถทางวิศวกรรมศาสตร์ และเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2513 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงานแนะแนวอาชีพและแข่งขันฝีมือช่างของสโมสรโรตารี่ กรุงเทพใต้ ณ ลุมพินีสถาน ทรงมีพระราชดำรัส ถึงความสำคัญในการส่งเสริมวิชาชีพช่างฝีมือ ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ ให้มีความสามารถและฝีมือที่มีมาตรฐานซึ่งจะส่งผลต่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศ
……………………………………………………