บ้านเมืองทุกวันนี้ มันวุ่นวายจริงๆ วิชาหน้าที่พลเมือง จึงเป็นเรื่องที่ถูกเรียกร้องกันของคนบางคนให้เอากลับมาสอนกันอีก ซึ่งในปัจจุบันก็ยังมีสอนกันต่อๆมา เพียงแต่เปลี่ยนชื่อเป็นวิชาสังคมศึกษาเท่านั้นเอง
ถ้าพูดอีกทีก็คือวิชาหน้าที่พลเมือง ยุคใดสมัยใดก็เอามาอบรมสั่งสอนคนยุคสมัยนี้กันไม่อยู่เสียแล้ว
ขนาดคนเป็นถึงผู้พิพากษา ตัดสินลงโทษคนทางการเมือง เอาคนหนุ่มคนสาวที่คิดเห็นต่างกัน รับโทษถึงกับทำเอาชีวิตเขาล่มจมไปครึ่งชีวิตเลย แล้วยังมีหน้าไปพูดในที่สาธารณะว่าสมควรโดน ทำอย่างกับว่าการตัดสินลงโทษคนไม่ได้ทำไปตามตัวบทกฎหมาย แต่ทำไปเพราะคิดเห็นต่างกันเยี่ยงสามัญชนคนธรรมดาคิดกัน
เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของบ้านเมืองยุคนี้ ผมเลยมีนิทานเอามาเล่าให้ฟัง แก้เครียดกันสักเรื่องหนึ่ง ลองอ่านดูนะครับ เรื่องมีอยู่ว่า…
มีพระราชาองค์หนึ่ง เลี้ยงหมาดุร้ายไว้ 10 ตัว เวลาใครทำผิด เขาจะสั่งให้จับคนทำผิด โยนใส่กรง
แล้วให้หมา 10 ตัวกัดจนตาย
วันหนึ่ง ทหารคนสนิท ที่รับใช้พระราชามา 10 ปี ทำแก้วกาแฟของพระราชาแตกพระราชาโกรธมาก จึงสั่งให้ทหารจับตัวทหารคนสนิทมาลงโทษ
ก่อนจะถูกนำเข้ากรงหมา ทหารคนสนิทบอกกับพระราชาว่า “ข้ารับใช้ท่านมา10 ปี ไม่เคยทำผิด ข้าขอโอกาส มีชีวิตอยู่ต่ออีก 10 วัน ท่านจะให้ข้าได้มั้ย..?”
พระราชา ตกลง เห็นแก่ความดีที่ทำมา10 ปี จึงให้เวลาเขา 10 วัน ทหารคนสนิทใช้เวลา 10 วันนี้ ไปหาผู้ดูแลหมา ขอช่วยเลี้ยงหมาให้อาหาร ดูแลหมาอย่างดี จนครบ 10 วัน
พระราชาสั่งให้จับทหารคนสนิทที่ทำผิด โยนเข้าไปในกรงหมา ปรากฏว่า หมาไม่กัดเขา แถมยังวิ่งเข้ามาเล่นด้วยอย่างอบอุ่น
พระราชา งง จึงถามว่าเพราะอะไร? ทหารคนสนิทจึงบอกพระราชาว่า “ข้าใช้เวลา10 วันให้ข้าวให้น้ำหมา มันยังจำความดีข้าได้ แต่ข้าจงรัก ภักดีท่านมา10 ปี ทำผิดครั้งเดียวท่านกลับลืม 10 ปีที่ข้าทำดีมา”
พระราชาได้ยินเช่นนั้น จึงคิดได้ ปล่อยทหารคนนั้น แล้วให้ยศที่ใหญ่กว่าเดิม
คนเรา มีดี มีพลาด อย่าให้ความผิดที่ไม่ได้หนักหนานักมาตัดขาดความดีอื่นๆที่เขาทำมาเลย
บางคน คบกันมาเป็นสิบปี มาผิดใจกันเรื่องเล็กน้อย มาบาดหมางใจกันกับคำพูดไม่กี่คำ
มันไม่ได้คุ้มเลย
เหมือนพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ที่สมาชิกพรรคคนหนึ่งก่อนประกาศ จะแยกตัวออกมาจากพรรคก็พูดว่า “6 ปีที่ทุ่มเทการทำงานให้พรรค ให้กับคนคนหนึ่งมาตลอด มาถึงวันนี้จะไม่อดทนทำดีอีกแล้ว”
“ ทำดี 100 ครั้ง ทำผิดครั้งเดียว เอากันถึงตายเลยหรือ?”
สมัยที่ผมบริหารบริษัท อยู่ ก็เคยใช้คำพูดแบบนี้กับเจ้าของกิจการ ในเวลาเขาโกรธที่ลูกน้องเขาทำผิด เพียงครั้งเดียวจะเอาเขาถึงตายเลย
สังคมที่มันแย่ลงก็เพราะ คนเรามีศีลธรรมประจำใจลดลง ครูบาอาจารย์ก็สอนเหมือนกันทุกยุค ทุกสมัย…แต่คนมันเห็นแก่วัตถุมากกว่า น้ำจิตน้ำใจ ที่ควรมีซึ่งกันละกัน
สังคมจึงอยู่กันยากขึ้นทุกวัน !
—————————–