ตอน : โลกธรรม นี้หนอ!
มีเรื่องค้างคาอยู่ในใจที่อยากจะนำมาเล่าสู่กันฟังในทำนอง ปรับทุกข์รำพึงรำพัน หรือปรึกษาหารืออยู่เพียงข้างเดียว 2 เรื่อง
เรื่องแรก คนดังในสังคมนั่งเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงเกษตรฯไปแจกข้าวปลาอาหารให้ทหารไทยชายแดนเขมร
เรื่องหลัง พระปากเปราะชื่อดังเทศนาระรานบัณเฑาะก์ ( กะเทย ) จนถูกขับออกจากวัดในเมืองกรุง แล้วมุ่งมา ( อาจจะ ) ใช้วาจาทำนองเดิมที่เมืองนครสวรรค์.…บ้านเรา
กรณีแรก หนุ่มไว้หนวดผู้ประพฤติตนเป็น นักบุญ ประกอบกรรม ( ดี ) ด้วยการช่วยผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยาก ให้พ้นความลำบากยากเข็ญและยากแค้นในชีวิตด้วยการเสียสละกำลังกาย กำลังปัญญาและกำลังทรัพย์ของตนเพื่อช่วยคนอื่น
แต่การทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ก็ได้แสดงอิทธิฤทธิ์ของคำพังเพยนั้นจนได้ ทำให้เกิดการปะทะคารมกับผู้คนที่ ( เริ่ม ) เห็นต่างและสงสัยในเจตจำนง ว่าหนุ่มหนวดงามหน้าตี๋มีเจตนาใดแฝงเร้นอยู่เบื้องหลังหรือในก้นบึ้งของจิตใจหรือไม่?
มีใครอุปถัมภ์ค้ำชูอยู่เบื้องหลัง เงินบริจาคได้นำไปทำกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยหรือไม่? หรือยักยอกยักย้ายทรัพย์ไปเพื่อประโยชน์ตนหรือครอบครัว หรือพวกพ้องบ้างหรือไม่
จนเกิดวิวาทะประสานงาปะทะคารมกับนักการเมืองสาวพราวเสน่ห์ที่มีกรณีถูกสังคมตั้งข้อสงสัยในแนวคิด วาจา ความประพฤติ การปฏิบัติงานทางการเมืองอยู่บ้างเช่นกัน
ผมติดใจอยู่เรื่องเดียวคือกรณีที่ตี๋หนุ่มหนวดงามลงภาพ ลงเสียง ลงเนื้อหาการนั่เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงเกษตรฯ ไปแจกของให้ทหารไทยตามชายแดนเขมร ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก เพื่ออวดภารกิจ หรือเพื่อโชว์พาว ( เวอร์ ) หรือด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ตาม
แต่กลายเป็นประเด็นว่าใช้อำนาจใดในการใช้เฮลิคอปเตอร์ของทางราชการประกอบกับการนำเครื่องขยายเสียงไปทำเสียงผีให้ชาวเขมรที่รุกรานแผ่นดินไทยได้มีความสุขจาก ความตื่นกลัวจนแทบตาปลิ้นลิ้นห้อย ด้วยอำนาจหน้าที่ใด?
ผมพาน ( ไม่ใช่พาล ) นึกไปถึงกรณีที่กลุ่มนักศึกษาหนุ่มสาวขอนั่งเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพที่พ่อทำงานอยู่ด้วยยศใหญ่โตขึ้นภูกระดึง แล้วถ่ายภาพอวดเพื่อนและชาวโลกพร้อมถ้อยความเย้ยหยันผู้อื่น ทำนองว่าไม่มีวาสนาที่จะได้นั่ง ฮ.ขึ้นภูกระดึง ต้องเดินต้องป่ายปีนกันจนลิ้นห้อยไปตามๆกัน
งานนั้นได้ข่าวว่าคุณพ่อที่เป็นนายทหารใหญ่และเป็นนักบิน ฮ. ลำนั้นแทบเอาชีวิตราชการไม่รอด เพราะลูกและเพื่อนลูกช่างคุยโวโอ้อวดในเรื่องที่ไม่ควรโอ้อวด, เพราะเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินและงบประมาณของทางราชการ
ชายหนุ่มหนวดงามหน้าตี๋ตาตี่รายนี้ก็มีเรื่องในทำนองเดียวกัน ถ้าสงบเสงี่ยมเจี๋ยมเจี้ยม เจียมเนื้อ เจียมตัว เจียมใจก็จะไม่มีโทษ
กรณีหลัง พระหนุ่มฉกรรจ์ เปรียญ 9 ประโยค แต่ปากเปราะเราะรานและระรานอนุปสัมบัน ฆราวาส คฤหัสถ์ โดยเฉพาะบัณเฑาะก์ ( กะเทย ) เช่นอดีตพระมหาไพรวัลย์อย่างเมามันและสนุกปาก เผยแพร่สู่สาธารณชน ทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก
สุดท้ายกลายเป็นถูกสังคมลงโทษ พระอุปัชฌาย์ เจ้าอาวาส เจ้าคณะในวัดที่ตนสังกัด ขับไล่ให้พ้นจากอารามหลวง ต้องระเหระหนซมซานแต่ไม่ถึงกับคลาน…..ออกจากวัด แล้วซัดเซระเหระหนมาจำพรรษาในอารามแห่งหนึ่งในเมืองนครสวรรค์….ฮา!
ในการถูกอัปเปหิออกจากวัดหลวงในเมืองกรุงจนต้องเซซังหาวัดสังกัดใหม่ พระหนุ่มนักกระแนะกระแหนฆราวาสอ้างซึ่งๆหน้าอย่างไม่อายฟ้าอายดินว่า “ ตนเอง ( อาตมา ) เปรียบดังพระเวสสันดรที่ต้องจำใจจากแคว้นสีพี กรุงเชตุดร ต้องระเหเร่ร่อนไปอยู่เขาวงกต ส่วนนครสวรรค์มีแต่เขากะลา เขาหน่อ เขาหลวง ฯลฯ ก็ยังดีกว่าไม่มีเขาอะไรเลย…ฮา!
กรณีที่บังอาจเปรียบตนเองกับพระโพธิสัตว์ “ เวสสันดร ” ไม่รู้ว่าบังอร….ขออภัย!… ไม่รู้ว่าพระคุณเจ้าแอบซ่อน มัทรี เข้ามาซุกซ่อนไว้ในกุฎีที่นครสวรรค์บ้างหรือไม่?….น่าไว้วางใจซะเมื่อไรล่ะครับ
ก่อนจะใช้รถกระบะเล็กขนอัฐบริขาร 3 คันรถ รอนแรมมาพึ่งร่มใบโพธิ์ของสมภารวัดฯ ที่อาจจะเคราะห์ร้ายในอนาคต…ฮา! ก็ยังได้ถ่ายคลิปตอนนั่งสั่งสอนเวไนยสัตว์ส่งท้ายหลายคลิป
แต่กลับอบรมสั่งสอนตนเองไม่ได้…..ฮา!
มีการตำหนิติเตียนเจ้าอาวาส ติเตียนหัวหน้า ( เจ้า ) คณะหมู่สงฆ์ในวัดเดียวกันที่ แบ่งการปกครองออกเป็นคณะๆ เหมือนหมู่บ้านฆราวาสที่เป็นหย่อมๆในคณะที่ตนสังกัด โดยไม่ได้สำนึกว่าควรจะต้องกอดขาขอขมาขอพำนักพักพิงต่อไปในอนาคต…..ต่างหาก!…ฮา!
เมื่อได้เข้ามาจำพรรษาในอารามแห่งหนึ่งในเมืองนครสวรรค์ ก็ยังตั้งหน้าตั้งตา เทศนาพรรณนาความทุกข์เผยแพร่ทางคลิปวิดีโอ โดยไม่เคยสำนึกผิดหรือคิดได้
แต่มุ่งกล่าวโทษผู้อื่นโดยทั่วหน้า โดยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ไม่หยุดหย่อน ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า และโดยไม่แสดงอาการตระหนักถึงสนิมเหล็กที่เกิดแต่เนื้อในตน หรือโทษคนอื่นเพี้ยงเมล็ดงาแต่นำมาสาธยายความเสียยิ่งใหญ่ล้นฟ้า
แต่โทษผิดบาปของตนเท่าภูผา กลับมองข้าม มองไม่เห็น ไม่รับรู้ ไม่รู้สึกรู้สาใดๆ
แล้วใยสาธุชน จะพึงเสียเวลาฟังคำพร่ำบ่นที่น่าชังของศิษย์ตถาคตที่โง่เขลาเบาปัญญาให้เสียเวลาไปไยเล่าหนอ?



