สงกรานต์…มีทุกปีในเดือนเมษายน เราก็ต้องอวยชัยให้พรกันตามประเพณี ที่ถือปฏิบัติกันมา จะมีเพิ่มเติมขึ้นมาก็คือการรดน้ำขอพรผู้หลักผู้ใหญ่ เมื่อมีโอกาสได้มาเจอกัน อีกสิ่งหนึ่งที่ถือปฏิบัติคือ…”สรงน้ำพระในบ้าน” ประเพณีเช่นนี้ถือว่าดีงาม ฝรั่ง จีน แขก ไม่มี ปีนี้รัฐบาลใจดีมาก มีวันหยุดให้หลายวัน เหตุหนึ่งเพราะเอาวันสงกรานต์ไปขึ้นเป็นมรดกโลก กับองค์การสหประชาชาติ ประเภทวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ลูกจ้างราชการ แฮปปี้ แต่ลูกจ้างภาคชนจะแฮปปี้ด้วยหรือเปล่า ได้หยุดกี่วันอันนี้ไม่รู้ แต่…ทั้งนายจ้างราชการ และนายจ้างเอกชนคงไม่ปลื้ม โลกนี้ก็เป็นเช่นนี้ระหว่างนายจ้าง กับ ลูกจ้าง ในเทศกาลสงกรานต์ทุกปีเราจะได้ข่าว ได้พบเห็นคนต่างจังหวัดที่ต้องออกไปหางานทำต่างบ้านต่างเมือง พอถึงวันหยุดสงกรานต์ก็เป็นความทุกข์ของพวกเขาที่ต้องกลับมาบ้านเกิดเมืองนอน เพื่อมาเจอกับ…”พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง” ถือว่าเป็นอีกกรรมหนึ่งในทุกๆปีของคนเหล่านี้ บ้านเราเรื่องการคมนาคม ยังล้าหลังมากๆ...

การนอนตากแอร์อยู่บ้านเพื่อคลายร้อนกลายเป็นตัวเลือกที่ใครหลายคนเลือกใช้ แต่การเปิดแอร์ที่บ้านทุกวันก็เปลืองค่าไฟ และเพื่อเป็นการคลายร้อนแบบไม่ต้องเปิดแอร์ที่บ้านทั้งวัน วันนี้ มีอาหารที่มีสรรพคุณช่วยดับร้อนได้มาแนะนำค่ะ 7 อาหารดับร้อน ช่วยปรับอุณหภูมิในร่างกาย 1.แตงโม ผลไม้ที่มีเนื้อสีแดงฉ่ำถือเป็นผลไม้ยอดฮิตในช่วงหน้าร้อน เพราะมีส่วนประกอบของน้ำเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เวลาทานแตงโมเข้าไปร่างกายจะรู้สึกสดชื่นมากขึ้น แถมแตงโมยังเป็นผลไม้ที่มีแคลอรี่ต่ำแต่มีไฟเบอร์สูง รวมถึงยังมีสารไลโคปิ่นและเบต้าแคโรทีนอีกด้วย เรียกว่าทานแตงโมเพียง 1-2 ชิ้น นอกจากช่วยดับกระหาย แก้อาการวิงเวียนศีรษะ หรือท้องผูกแล้วยังช่วยดับร้อนจากภายในร่างกายอีกด้วย ส่วนใครที่เบื่อการทานผลไม้แบบสด ๆ อาจลองเมนูแตงโมปั่นแทนก็ได้ รับรองว่าได้ความอร่อยและความสดชื่นไม่แพ้กันเลยทีเดียว เฉาก๊วยนมสด เฉาก๊วยถือเป็นอีกหนึ่งเมนูคลายร้อนยอดนิยม นอกจากเนื้อเฉาก๊วยที่เด้ง ๆ...

นี่ย่างเข้ามาเดือนที่ 4 ของปีแล้ว คือเดือนเมษายน ถ้าเป็นตามไตรมาสของราชการก็เป็นไตรมาสที่ 3 เมษาฯ / พฤษภาฯ / มิถุนายน นับเป็นไตรมาสที่สามของปีปฏิทินราชการ           รัฐบาลรับปากแล้วว่าในไตรมาสที่ 4 คือตั้งแต่เดือน กรกฎาฯ / สิงหาฯ / กันยายน           คนไทยที่อายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินคนละ...