ระยะนี้ต้องชวนแฟนๆคุย… “ธรรมะ” มากๆหน่อย เพื่อช่วยกันดึงสติชาวพุทธเราให้กลับมาสู่สภาวะปกติ เพราะในทศวรรษนี้ คงเป็นรอบ 10 ปีที่มีเรื่องร้ายแรงในหมู่ชาวพุทธเรา มากเกินกว่าที่เราเคยเจอกันมา อ่านกันดูนะครับเพื่อประดับสติปัญญาพวกเรากัน เชิญครับ…
วันหนึ่งขณะที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ เชตวัน ของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เทวดาได้มาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์โดยแปลงกายเป็นพราหมณ์ที่มีใบหน้าสว่างไสว สวมชุดสีขาวราวหิมะ
เทวดาทูลถามปัญหาต่อพระพุทธเจ้าว่า
“อะไรคือดาบที่คมที่สุด…อะไรคือยาพิษที่ร้ายแรงที่สุด ……อะไรคือไฟที่ร้ายที่สุด อะไรคือคืนที่มืดที่สุด”
พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า : “วาจาที่กล่าวด้วยความโกรธคือดาบที่คมที่สุด…ความโลภคือยาพิษที่ร้ายแรงที่สุด…ความปรารถนาคือไฟที่ร้ายที่สุด…ความหลงผิดคือคืนที่มืดที่สุด”
เทวดาทูลถามว่า “ใครคือผู้ที่ได้มากที่สุด…ใครคือผู้ที่เสียมากที่สุด…อะไรเป็นเกราะที่แข็งกร่งที่สุด… อะไรคืออาวุธที่ดีที่สุด”
พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า “คนที่ให้คือคนที่ได้มากที่สุด…คนที่เอาแต่ได้โดยไม่ตอบแทน…คือคนที่เสียมากที่สุด… ความอดทนคือเกราะที่แข็งแกร่งที่สุด… ปัญญาคืออาวุธที่ดีที่สุด
เทวดาทูลถามว่า “ใครคือโจรที่อันตรายที่สุด… อะไรคือทรัพย์ที่มีค่าที่สุด… ใครที่สามารถที่สุดในการยึดครอง ไม่ว่าบนโลกหรือสวรรค์… อะไรคือขุมทรัพย์ที่ปลอดภัยที่สุด
พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า “ความคิดร้ายคือโจรที่อันตรายที่สุด… คุณธรรมคือทรัพย์อันมีค่าที่สุด …ใจคือผู้ยึดครองทุกสิ่งไม่ว่าบนโลกนี้หรือสวรรค์… อมตะนิพพานคือขุมทรัพย์ที่ปลอดภัยที่สุด”
เทวดาทูลถามว่า “อะไรคือสิ่งที่น่ารัก… อะไรคือสิ่งที่น่ารังเกียจ… อะไรคือความทุกข์ทรมานที่น่ากลัวที่สุด…อะไรคือความสุขที่สุด”
พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า “ความดีคือสิ่งที่น่ารัก… ความชั่วคือสิ่งที่น่ารังเกียจ…มิจฉาสติคือความทุกข์ทรมานที่น่ากลัวที่สุด… ความหลุดพ้นคือความสุขที่สุด”
เทวดาทูลถามว่า “อะไรทำให้โลกพินาศ…อะไรที่ทำลายมิตรภาพ …อะไรคือไข้ที่ร้ายแรงที่สุด…ใครคือแพทย์ที่ดีที่สุด”
พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า “อวิชชา (ความไม่รู้แจ้ง) ทำให้โลกพินาศ…ความริษยาและความเห็นแก่ตัวทำลายมิตรภาพ… ความเกลียดชังคือไข้ที่ร้ายแรงที่สุด และ… พระพุทธเจ้าคือแพทย์ที่ดีที่สุด”
เทวดาจึงทูลว่า “บัดนี้ข้าพเจ้ายังมีข้อสงสัยอีกข้อหนึ่ง ที่ต้องการคำตอบให้แจ่มแจ้ง อะไรที่ไม่ไหม้ด้วยไฟ ไม่สลายด้วยน้ำ ไม่แตกกระจายด้วยลม แต่สามารถเปลี่ยนโลกนี้ได้”
พระพุทธเจ้าตรัสว่า “ผลแห่งกรรมดี ไม่ว่า ไฟ น้ำ หรือ ลม ก็ทำลายผลแห่งกรรมดีไม่ได้ และผลแห่งกรรมดีสามารถเปลี่ยนโลกได้”
เทวดาเมื่อได้สดับดังนี้ ก็เกิดปิติเป็นล้นพ้น ประณมหัตถ์น้อมลงถวายอภิวาทต่อพระบรมศาสดา และร่างเทวดาก็หายไปจากตรงนั้น***
ร่วมเป็นสะพานธรรมแชร์เผยแพร่ธรรมะให้เพื่อนมนุษย์…
- พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า การให้ธรรมะ ชนะการให้ทั้งปวง•………น้อมกราบ
อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
เพื่อนกัลยาณมิตรธรรมทุกท่าน จึงค่อยๆเข้าใจ ค่อยๆเข้าถึง ค่อยๆประจักษ์แจ้งสภาวธรรมนั้นๆ ที่เทวดาได้เข้าเฝ้าทูลถามปัญหานั้นๆต่อพระพุทธเจ้าด้วย
อ่านจบก็กราบกันด้วยนะครับ
………………………………………