เรื่องพระสงฆ์องคเจ้าที่กำลังเป็นข่าวติดต่อกันมาหลายเดือนในยามนี้ก็เห็นเป็นท่านอดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ที่ลพบุรี
เป็นพระอะไรที่อุตส่าห์เข้ามาบวชเป็นศิษย์ตถาคต มาสร้างความฉงนสนเท่ห์ ให้กับญาติโยมที่ศรัทธาร่วมทำบุญกับท่านเกือบทั้งประเทศได้ขนาดนี้
เมื่อแรกบวช เป็นช่วงที่โรค HIV กำลังระบาด เป็นทุกข์อันใหญ่หลวงของคนสำส่อนทางเพศ มีการคาดการณ์กันว่าจะมีคนตายชนิดต่อโลงศพกันไม่ทัน
เมื่อพระหนุ่มออกข่าวว่าเป็นพระที่จบการศึกษาระดับปริญญาโท ออกบวชแล้วไม่สึกอาสาเข้ามาจัดการกับบรรดคนป่วยที่ติดเชื้อ HIV ?
คนก็พากันแซ่ซ้อง โห่ร้องพากันสรรเสริญในเจตนาอันน่าสง่างามในยามนั้น
กาลเวลาผ่านไป ปีแล้ว ปีเล่า ภารกิจที่ท่านดำเนินการก็ไม่มีใครไปสงสัยอะไร ทำจนเป็นอีกหนึ่งอาณาจักร ที่ใครๆก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งไปเกี่ยวด้วย
จนมาถึงวิกฤติในหมู่พระสงฆ์ชั้นระดับบิ๊กๆ เกิดเรื่องเกิดราวฉาวโฉ่เกี่ยวกับสีกาและเงินทำบุญดังขึ้น ขบวนการขุดคุ้ยลามปามลุกไหม้ไปทั่วทั้งแผ่นดิน
ในที่สุดวัดพระบาทน้ำพุ ก็ไม่เว้นที่จะโดนพลอยฟ้าพลอยฝนเข้าไปด้วย
สำหรับท่านอดีตเจ้าอาวาสที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ท่านจะถูก ท่านจะผิด ผมไม่ขอไปพิพากษาท่าน
แต่ผมมีเรื่อง… “พระดื้อ” ในสมัยพุทธกาลเอามาเล่าสู่กันฟัง ท่านอ่านกันแล้วเทียบเคียงกับอดีตเจ้าอาวาสพระบาทน้ำพุเอาเองละกันนะครับ เชิญอ่านครับ !
ในสมัยพุทธกาล มีภิกษุสองรูปที่ได้ชื่อว่า “หัวดื้อ” ที่สุด
หนึ่ง…คือฉันนะ มหาดเล็กคนที่พาพระพุทธเจ้าออกบวชนั่นแหละ ถือว่าเป็นคนสนิทกับพระพุทธเจ้ามาก่อน มีทิฐิมานะไม่ฟังใคร ไม่ยอมเชื่อใคร เชื่อมั่นในตนเองสูง อย่าว่าแต่ไม่ยอมฟังคำเตือนของพระเถระทั้งหลายเลย บางครั้งแม้แต่พระพุทธเจ้าเตือนก็ไม่ฟัง
สอง…คือติสสะ นี่ก็จอมดื้อ ไม่ฟังใคร จนพระพุทธเจ้าบอกว่าไม่ใช่จะมาดื้อตอนนี้ แกดื้อมาตั้งแต่อดีตชาติ คือดื้อข้ามภพข้ามชาติเลยละ!
วิธีปราบพระดื้อทำอย่างไร ?
พระพุทธเจ้าท่านทรงแนะว่าให้ทำ..”พรหมทัณฑ์” คือการบอยคอต ไม่ให้ใครไปร่วมสังฆกรรมด้วย ไม่ยอมพูดจา ไม่มีโอวาท ไม่อนุศาสน์
พวกเราลองเอาวิธีของพระศาสดาเรามาใช้กับอดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ดีไหมครับ ถ้าท่านไม่สึก
—————————–