เป็นเวลาเกือบจะสิบปีที่ผ่านมา เราจะได้ยินเรื่องการบ้านการเมือง และเรื่องความขัดแย้งของเวียดนามน้อยมาก
ทางการเมืองของพี่น้องชาวลาวก็เช่นกัน นี่ก็ไม่มีเรื่องอะไรให้ตื่นเต้นเลย
ย้อนไปราวๆปี 2507 ในยุคนั้น ข่าวการรบราฆ่าฟันกันในเวียดนาม ในลาว เราได้ยินเกือบจะทุกวัน
ในขณะที่ประเทศไทยเราสงบ ด้วยพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
จะมีก็ช่วงปี 2511 – 2525 ที่เรามีการสู้รบระหว่างรัฐบาลไทย กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(พคท.) ที่เกิดขึ้นในพื้นที่เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
พรรคคอมมิวนิสต์ได้เข้ายึดเขาค้อเป็นฐานที่มั่นในการทำสงครามกองโจร และเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ จนกระทั่งการสู้รบยุติลงในปี 2525 ด้วยยุทธศาสตร์พระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9
ยุทธศาสตร์ที่พระราชทานทรงมีพระราชดำริให้ปรับยุทธวิธีในการทำงาน และพระราชทานแนวทางให้ราษฎรเข้าไปตั้งรกรากทำมาหากินในพื้นที่ เพื่อสร้างความเจริญและความสงบในที่สุด
ผลลัพธ์การสู้รบกว่า 15 ปี ได้ยุติลงในพ.ศ. 2525 ทำให้พื้นที่เขาค้อคืนสู่ความสงบ มาจนถึงทุกวันนี้
มาถึง พ.ศ. นี้ พี่ไทยเรามีเรื่องให้เป็นข่าวอื้อฉาวได้ทุกวัน โดยเฉพาะการเมือง นับตั้งแต่ ปี 2549 ที่มีการปฏิวัติรัฐบาลของนายทักษิณ เมื่อเดือนกันยายน โดยพลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน เป็นต้นมา ต่อมาถึงการปฏิวัติอีกครั้งในปี 2557 โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
ประเทศเราก็บอบช้ำแต่นั้นมา จากพ.ศ. 2549 มาถึง พ.ศ. 2568 เรามีนายกรัฐมนตรีถึง 8 คน ปี 2549 พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ปี 2551 นายสมัคร สุนทรเวช ปี 2551 นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ปี 2551 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปี 2554 นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปี 2557 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ปี 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน และ ปี 2567 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร
เวลาเพียง 19 ปี เรามีนายกรัฐมนตรี ถึง 8 คน โดยที่ประเทศชาติไม่ได้ขับเคลื่อนในความเจริญไปไหนเลย
เสียเวลาไปเปล่าๆ
มาถึงเดือน กันยายน 2568 เราก็ได้นายกรัฐมนตรีใหม่ คนที่ 32 ของประเทศ และเป็นคนที่ 9 ของยุคแห่งการสับสนวุ่นวาย ขึ้นมาอีกคนหนึ่งแล้ว
แล้วท่านนายกฯคนที่ 32 ท่านก็จะอยู่ในตำแหน่งเพียง 4 เดือนตามสัญญา จากนั้นจะรักษาการไปอีกกี่เดือนค่อยว่ากัน
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเมื่ออดีตเราได้ชื่อว่าเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเซีย มาถึง พ.ศ. นี้เกียรติยศเกียรติภูมิเราตกต่ำมาได้ถึงเพียงนี้
ที่ร้ายไปกว่านั้นเรายังมีสงครามกับเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา ที่ทำเอานายกรัฐมนตรีกระเด็นตกเก้าอี้ไปอีกหนึ่งคนด้วยน้ำมือเขมรชัดๆเลย
ณ วันนี้ เราก็เฝ้าดูฝีมือนายกรัฐมนตรีเสียงข้างน้อยในสภาว่าจะสำแดงอิทธิฤทธิ์อิทธิเดช อะไรให้ได้เห็นในชั่วระยะเวลาเพียง 4 เดือน
เรื่องปากท้อง เรื่องเศรษฐกิจจะเฉิดฉายไปได้ด้วยกลยุทธ์ใด ระหว่างเขียนต้นฉบับ คณะรัฐมนตรีก็ยังไม่คลอด ยังไม่ได้โปรดเกล้าฯ
เอาเป็นว่าเดือนกันยายน ก็คงจะหมดไปหนึ่งเดือนฟรีๆ
เวลาเริ่มทำงานกันก็คงเดือนตุลาคม ซึ่งคนไทยก็เรียกเดือนนี้ว่า…ตุลาอาถรรพ์ เพราะเป็นเดือนที่ข้าราชการโยกย้าย สับเปลี่ยนตำแหน่งกัน
ในฐานะพลเมืองของประเทศ เราก็ต้องร่วมมือร่วมใจ การเมืองจะเป็นเช่นไร ความเป็นคนคุณภาพของประเทศเราก็ต้องมีที่จะช่วยกันประคับประคองประเทศชาติให้ก้าวหน้าไปให้ได้
การเมืองเป็นเรื่องของประชากรในประเทศที่ต้องดูแล ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม ถ้าประชากรเป็นคนมีคุณภาพ การเมืองและนักการเมืองก็จะมีคุณภาพตามมาด้วย
เราวนเวียนกันมานานมากแล้วนะครับ หยุด! แล้วหันมาร่วมมือร่วมใจกันพัฒนาการเมือง นักการเมืองให้ดีขึ้นก่อนสิ้นปีนี้
อดีตนายกฯ คนต้นเรื่องในหลายๆเรื่อง วันนี้ก็เอาเข้าไปสงบสติอารมณ์อยู่ในคุกกันได้แล้ว
อีกหนึ่งปีเขาพ้น… “คุก”ออกมา เราอาจจะได้อะไรที่มันดีขึ้นกว่าในอดีตก็เป็นได้
เปลี่ยนกันวันนี้เลยนะครับ
…………………………………………………………………