ผู้รู้ทางการเมืองท่านหนึ่งแสดงความคิดเห็นไว้ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กเกี่ยวกับการคอรัปชั่นเชิงนโยบายของเมืองไทยว่า เกิดขึ้นอย่างโจ๋งครึ่ม! กว่าครั้งใดๆในอดีต ในสมัยที่เจ้าสำนักตั๊กม้อแห่งลุ่มแม่น้ำท่าจีนขึ้นครองอำนาจ
แล้วอาการผิดสำแดงอย่างรุนแรงก็ตามมาในสมัยที่ผู้ครองอำนาจในเมืองไทยมาจากอดีตข้าราชการในคราบนักธุรกิจการเมืองเต็มรูป
สร้างความร่ำรวยให้นักธุรกิจการเมืองรายนั้นอย่างน่าสงสารเกินประมาณ และเจือจานไปยังผู้ใกล้ชิด กระจายพิษความร่ำรวยให้แพร่ระบาดไปในหมู่ข้าทาสบริวาร จนต้องเดือดร้อนถึงรมณียสถานที่เรียกขานว่า “เรือนจำ” ต้องประสบความแออัดยัดเยียดไปด้วยบริษัทบริวารของเครือข่ายเศรษฐีหมื่นล้านแสนล้านผู้ลำพองตน
ในขณะที่ประชาชนคนในชาติต้องประสบภาวะเงินทองฝืดเคืองรายได้ตกต่ำ เศรษฐกิจตกสะเก็ดจนแตกกระจายไปทั่วทุกหัวระแหง ในแบบที่เมืองไทยไม่เคยประสบพบพานมาก่อน
เมื่อประสบทุกข์เข็ญทุกเย็นเช้า ชาวไทยส่วนหนึ่งซึ่งเป็นส่วนใหญ่ก็หันหน้าเข้าหาพระ ทำให้ความทุกข์ขุกเข็ญทุกเย็นเช้าเพิ่มรอบเที่ยงและรอบบ่ายเข้ามาอีกอย่างไม่ตั้งใจ!
ทำให้สาธุชนโศกสลด หน้าดำคล้ำหมอง จิตใจที่เคยผ่องใสพิสุทธิ์ต้องสะดุดล้มคว่ำล้มหงาย พานจะตายเพราะไร้ที่พึ่งทางใจไปตามๆกัน
แต่ถ้าพุทธศาสนิกชนคนไทยจะเข้าใจได้ถึงหลักธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็จะเข้าใจชีวิตว่า เพราะความรัก โลภ โกรธ หลง ปลงไม่ตก คือนรกในใจคน จะหลบลี้เพียงใดก็หนีไปไม่พ้น นอกจากจะเข้าใจในโลกธรรม
ความพอมีพอกินพอเพียงคือความสุขของสามัญชน ยิ่งร่ำรวยเพียงใดยิ่งต้องตระหนักถึงผู้คนที่แสนยากจนทั่วผืนแผ่นดินไทย จะต้องเร่งเจือจานให้บานตะไทด้วยใจจริง
ยิ่งมีอำนาจมากล้นเพียงใด ยิ่งต้องเผื่อแผ่หัวใจให้บรรดาผู้ที่บุญน้อยด้อยวาสนา ด้วยทั้งเงินตรา ยศศักดิ์อัครฐาน ต่ำทั้งตำแหน่งการงานราชการ บริษัทหรือรัฐวิสาหกิจ
หากความโลภเข้าครอบงำ แม้ร่ำรวยเพียงใดก็ไม่เคยเพียงพอ
ยศศักดิ์อัครฐานสูงส่งยิ่งใหญ่เพียงใดก็ไม่เคยอิ่มไม่ยอมหยุดไม่เคยพอ ไม่ยอมรอ มีแต่จะเข้าต่อตีแย่งยื้อมาถือมาครองเอาไว้ในตนหรือในตระกูล
สุดท้ายทุกสิ่งทุกอย่างอาจจะเสื่อมสูญไปในสายลม………เพราะ “แรงกรรม” ที่กระทำไว้ในแผ่นดิน!
บก.