กิจกรรม “ปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวตามพระราชดำริ ปลูกป่า 3 อย่าง ได้ประโยชน์ 4 อย่าง” ภายใต้โครงการ นครสวรรค์เมืองคาร์บอนต่ำ เพื่อสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนมีความตระหนักและมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
เมื่อวันพุธที่ 4 มิถุนายน 2568 เวลา 08.30 นาฬิกา ที่บริเวณริมบึงระหารน้ำใส หมู่ที่ 6 ตำบลนากลาง อำเภอโกรกพระ จังหวัตนครสวรรค์ นางสาวชุติพร เสชัง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เป็นประธานในการเปิดกิจกรรม ปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวตามพระราชดำริ ปลูกป่า 3 อย่าง ได้ประโยชน์ 4 อย่าง ภายใต้โครงการ นครสวรรค์เมืองคาร์บอนต่ำ โดยมีนายประทีป ลิสกุลรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตร และประชาชน เข้าร่วมในกิจกรรมดังกล่าว
ทั้งนี้นางสาวชุติพร เสชัง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ได้มอบพันธุ์กล้าไม้ให้กับหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำชุมชน และภาคภาคีเครือข่าย พร้อมด้วยการปล่อยพันธุ์ปลาน้ำจืด ปลาตะเพียน จำนวน 30,000 ตัว ลงสู่บึงระหารน้ำใส เพื่อเป็นแหล่งอาหารสำหรับชุมชน และสุดท้ายได้ร่วมกันปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวตามพระราชดำริ ปลูกป่า 3 อย่าง ได้ประโยชน์ 4 อย่าง จำนวน 1,000 ต้น ได้แก่ ต้นพะยอม ต้นตะเคียนทอง ต้นกันเกรา ต้นยางนา และมะม่วงหลากหลายพันธุ์ รวมพื้นที่กว่า 10 ไร่ เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีความตระหนักและการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและรักสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อน ขับเคลื่อนให้จังหวัดนครสวรรค์มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้ทรงให้ความสำคัญกับการพัฒนาป่าไม้ร่วมกับการพัฒนาด้านอื่นๆ โดยทรงตระหนักถึงความเชื่อมโยงอย่างเป็นระบบของสิ่งแวดล้อม ทั้งดิน น้ำและสัตว์ ซึ่งล้วนเป็นรากฐานของการดำรงชีวิตและความผาสุกของประชาชน พระองค์ได้พระราชทานแนวพระราชดำริเรื่อง “การปลูกป่า 3 อย่าง ได้ประโยชน์ 4 อย่าง” ซึ่งล้วนสะท้อนพระปรีชาสามารถอันลึกซึ้งด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ยั่งยืน และทั่วถึง กล่าวคือ ป่าที่ปลูกควรให้ได้ทั้งไม้ใช้สอย ไม้ผล และไม้ฟืน พร้อมกับประโยชน์ประการที่ 4 คือ การอนุรักษ์ดินและน้ำ สร้างความชุ่มชื้นคืนสมดุลให้แก่ระบบนิเวศ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และรักษาสิ่งแวดล้อม
……………………………………………………………………………
