การใช้โดรนนั้นถือว่าเป็นเรื่องสำคัญในสังคมปัจจุบัน เนื่องจากโดรนเป็นเครื่องที่ใช้ในการกระทำความผิดได้ทั้งทางแพ่งและทางอาญา เช่น การใช้โดรนติดกล้องถ่ายวีดีโอไปยังสถานที่ต่างๆ มีการรุกล้ำเข้าไปในท้องฟ้าในที่ดินของบุคคลอื่น เป็นความผิดฐานละเมิดและความเป็นอยู่โดยปกติสุขของเจ้าของที่ดิน ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1335 บัญญัติว่า “…แดนแห่งกรรมสิทธิ์ที่ดินนั้นกินทั้งเหนือพื้นดินและใต้พื้นดินด้วย” ซึ่งโดรนที่บินเหนือที่ดินของผู้อื่นย่อมเป็นการบุกรุกหรือละเมิดต่อเจ้าของที่ดิน ทำให้เกิดเสียงรบกวนหรือถ่ายวีดีโอบริเวณที่อยู่อาศัยส่วนตัวของผู้อื่น หรือใช้โดรนเป็นเครื่องมือในการกระทำผิดฐานฆ่า ทำร้ายร่างกาย ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สิน หรือสร้างความเดือนร้อนลำคาญใจแก่ผู้อื่น เป็นต้น เพราะโดรนสามารถติดอาวุธปืน ระเบิด ยาพิษ เชื้อโรค สารพิษ เพื่อนำมาทิ้งใส่บุคคลหรือบริเวณที่อยู่อาศัยของผู้อื่นได้ หรือใช้โดรนนำยาเสพติดหรือของผิดกฎหมายอื่น
ประกอบกับในสถานการณ์ปัจจุบันประเทศกัมพูชาใช้โดรนติดอาวุธหรือกล้องวีดีโอรุกล้ำเข้ามาในประเทศไทย เพื่อก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนหรือสำรวจการเคลื่อนไหวต่างๆ ในประเทศไทย ซึ่งเป็นการรุกล้ำอาณาเขตของไทยด้วย
อย่างไรก็ตามในด้านของประโยชน์ใช้สอยนั้น โดรนก็ยังมีประโยชน์มากมายทั้งทางด้านพาณิชย์ การเกษตร อุตสาหกรรม การสื่อสาร การขนส่ง การคมนาคม เป็นต้น ดังนั้นการจดทะเบียนโดรนเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน เมื่อมีการใช้โดรนเป็นอาวุธในการกระทำความผิดเกิดขึ้น ก็สามารถดำเนินคดีกับเจ้าของโดรนได้ทันที ซึ่งในบทความนี้จะได้กล่าวถึงกฎหมายเกี่ยวกับการจดทะเบียนโดรน
- โดรน หมายถึง การบินพลเรือนใช้คำศัพท์ว่า อากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ส่วนในการบินทหารใช้คำศัพท์ว่า อากาศยานไร้คนขับ (อังกฤษ: unmanned aerial vehicle: UAV) เป็นอากาศยานซึ่งไม่มีมนุษย์โดยสารอยู่ (Lanzon, A. 2018) แต่อาจบินภายใต้การควบคุมของมนุษย์ผ่านคลื่นวิทยุหรือดาวเทียม เช่น อากาศยานที่ถูกขับจากระยะไกล (remotely-piloted aircraft: RPA) หรืออาจบินโดยมีอิสระในการบังคับตนเองหลาย ๆ ระดับ เช่น กรณีของออโทไพลอต (autopilot) ไปจนถึงอิสระอย่างเต็มรูปแบบซึ่งไม่มีมนุษย์เข้าเกี่ยวข้องเลย (Cary Leslie. et al 2016) หรือ โดรน หมายถึง อากาศยานที่รับคำสั่งจากนักบินระยะไกล หรืออาศัยซอฟต์แวร์เพื่อการบินอัตโนมัติ โดรนหลายรุ่นมีคุณสมบัติเด่น เช่น กล้องสำหรับรวบรวมข้อมูลภาพ และใบพัดสำหรับรักษาเสถียรภาพของรูปแบบการบิน ภาคส่วนต่างๆ เช่น การถ่ายวิดีโอ การค้นหาและกู้ภัย การเกษตร และการขนส่ง ได้นำเทคโนโลยีโดรนมาใช้ (Built in, 2024)
- ตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 อากาศยาน หมายความรวมถึง “เครื่องทั้งสิ้นซึ่งทรงตัวในบรรยากาศ โดยปฏิกิริยาแห่งอากาศ เว้นแต่วัตถุซึ่งระบุยกเว้นไวในกฎกระทรวง”
มาตรา 24 “ห้ามมิให้ผู้ใดบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน หรือทิ้งร่มอากาศ นอกจากได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากรัฐมนตรีและปฏิบัติตามเงื่อนไขที่รัฐมนตรีกำหนด”
มาตรา 78 “ผู้ใดบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากรัฐมนตรีตามมาตรา 24 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
มาตรา 80 “ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง หลักเกณฑ์การขออนุญาตและเงื่อนไข ในการบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก ประกาศ ณ วันที่ 2 กรกฎาคม 2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท”
- ประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง หลักเกณฑ์การขออนุญาตและเงื่อนไขในการบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไมมีนักบินประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก พ.ศ. 2558
อากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก หมายความว่า “อากาศยานที่ควบคุมการบินโดยผู้ควบคุมการบินอยูภายนอกอากาศยานและใช้ระบบควบคุมอากาศยาน ทั้งนี้ ไมรวมถึงเครื่องบินเล็กซึ่งใช้เป็นเครื่องเล่นตามกฎกระทรวงกำหนดวัตถุซึ่งไม่เป็นอากาศยาน พ.ศ. 2548”
ระบบควบคุมอากาศยาน หมายความว่า “ชุดอุปกรณ์อันประกอบด้วยเครื่องเชื่อมโยงคำสั่งควบคุมหรือการบังคับอากาศยาน รวมทั้งสถานีหรือสถานที่ติดตั้งชุดอุปกรณ์เหล่านี้หรือเครื่องมือที่ใช้ควบคุมการบินจากภายนอกและตัวอากาศยานด้วย”
ข้อ 4 อากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอกตามประกาศนี้แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
(1) ประเภทที่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการเล่นเป็นงานอดิเรก เพื่อความบันเทิง หรือเพื่อการกีฬาแบ่งออกเป็น 2 ขนาด คือ (ก) ที่มีน้ำหนักไมเกิน 2 กิโลกรัม (ข) ที่มีน้ำหนักเกิน 2 กิโลกรัม แต่ไม่เกิน 25 กิโลกรัม
(2) ประเภทที่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกจาก (1) ที่มีน้ำหนักไมเกิน 25 กิโลกรัม ดังต่อไปนี้ (ก) เพื่อการรายงานเหตุการณหรือรายงานการจราจร (สื่อมวลชน) (ข) เพื่อการถ่ายภาพ การถ่ายทำหรือการแสดงในภาพยนตร์หรือรายการโทรทัศน์ (ค) เพื่อการวิจัยและพัฒนาอากาศยาน (ง) เพื่อการอื่น ๆ
ข้อ 5 อนุญาตให้บังคับหรือปล่อยอากาศยานที่มีน้ำหนักไมเกิน 2 กิโลกรัม โดยผู้บังคับหรือปล่อยอากาศยานต้องมีอายุเกินกว่า 18 ปบริบูรณ์ เว้นแต่จะมีผู้แทนโดยชอบธรรมควบคุมดูแล และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
(1) ก่อนทำการบิน (ก) ตรวจสอบว่าอากาศยานอยู่ในสภาพที่สามารถทำการบินไดอย่างปลอดภัย ซึ่งรวมถึงตัวอากาศยานและระบบควบคุมอากาศยาน (ข) ไดรับอนุญาตจากเจาของพื้นที่ที่จะทำการบิน (ค) ทำการศึกษาพื้นที่และชั้นของห้วงอากาศที่จะทำการบิน (ง) มีแผนฉุกเฉิน รวมถึงแผนสำหรับกรณีเกิดอุบัติเหตุ การรักษาพยาบาล และการแกปัญหากรณีไมสามารถบังคับอากาศยานได้
(2) ระหว่างบิน
(ก) ห้ามทำการบินในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และรบกวนความสงบสุขของบุคคลอื่น
(ข) ห้ามทำการบินเข้าไปในบริเวณเขตหวงห้าม เขตจำกัด และเขตอันตรายตามที่ประกาศในเอกสารแถลงข่าว การบินของประเทศไทย (Aeronautical Information Publication – Thailand หรือ AIP – Thailand) รวมทั้งสถานที่ราชการ หน่วยงานของรัฐ โรงพยาบาล เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากหน่วยงานเจ้าของพื้นที่
(ค) แนวการบินขึ้นลงของอากาศยานจะต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง
(ง) ผู้บังคับหรือปล่อยอากาศยานต้องสามารถมองเห็นอากาศยานได้ตลอดเวลาที่ทำการบินและห้ามทำการบังคับอากาศยาน โดยอาศัยชุดกล้องบนอากาศยานหรืออุปกรณ์อื่นที่มีลักษณะใกล้เคียง
(จ) ต้องทำการบินในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก ซึ่งสามารถมองเห็นอากาศยานได้อย่างชัดเจน
(ฉ) ห้ามทำการบินเข้าใกล้หรือเข้าไปในเมฆ
(ช) ห้ามทำการบินภายในระยะ 9 กิโลเมตร (5 ไมล์ทะเล) จากสนามบินหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวของอากาศยาน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหรือผู้ดำเนินการสนามบินอนุญาตหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวอนุญาต
(ซ) ห้ามทำการบินโดยใช้ความสูงเกิน 90 เมตร (300 ฟุต) เหนือพื้นดิน
(ฌ) ห้ามทำการบินเหนือเมือง หมู่บ้าน ชุมชน หรือพื้นที่ที่มีคนมาชุมนุมอยู่
(ญ) ห้ามบังคับอากาศยานเข้าใกล้อากาศยานซึ่งมีนักบิน
(ฎ) ห้ามทำการบินละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น
(ฏ) ห้ามทำการบินโดยก่อให้เกิดความเดือดร้อน ความรำคาญแก่ผู้อื่น
(ฐ) ห้ามส่งหรือพาวัตถุอันตรายตามที่กำหนดในกฎกระทรวงหรืออุปกรณ์ปล่อยแสงเลเซอร์ติดไปกับอากาศยาน
(ฑ) ห้ามทำการบินโดยมีระยะห่างในแนวราบกับบุคคล ยานพาหนะ สิ่งก่อสร้างอาคาร ที่ไม่เกี่ยวข้อง กับการปฏิบัติการบินน้อยกว่า 30 เมตร (100 เมตร) ในกรณีอากาศยานที่มีน้ำหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัมและ 50 เมตร (150 ฟุต) ในกรณีอากาศยานที่มีน้ำหนักเกินกว่า 2 กิโลกรัม แต่ไม่เกิน 25 กิโลกรัม
เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแก่อากาศยานให้ผู้บังคับหรือปล่อยอากาศยานแจ้งอุบัติเหตุนั้นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โดยไม่ชักช้า
ข้อ 6 อนุญาตให้บังคับหรือปล่อยอากาศยานที่มีน้ำหนักเกินกว่า 2 กิโลกรัม แต่ไม่เกิน 25 กิโลกรัม และตามข้อ 7 ผู้บังคับต้องมีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ ไม่เป็นผู้มีพฤติการณ์อันเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ และตามข้อ 8 ต้องยื่นคำขอขึ้นทะเบียนต่ออธิบดีพร้อมด้วยหลักฐานและเอกสารตามที่กำหนด และตามข้อ 9 (2) ระหว่างทำการบิน (ก) ต้องปฏิบัติตามข้อ 5 และ (ข) ห้ามทำการบินโดยมีระยะห่างในแนวราบกับบุคคล ยานพาหนะ สิ่งก่อสร้าง อาคารที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการบินน้อยกว่าห้าสิบเมตร (ค) เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแกอากาศยาน ให้บังคับหรือปล่อยอากาศยานแจ้งอุบัติเหตุนั้นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โดยไมชักช้า
ข้อ 10 อนุญาตให้บังคับหรือปล่อยอากาศยานที่มีน้ำหนักไมเกิน 25 กิโลกรัม และตามข้อ 12 ต้องยื่นคำขอขึ้นทะเบียนต่ออธิบดีพรอมด้วยเอกสารและหลักฐาน และปฏิบัติตามข้อ 9
- การจดทะเบียนโดรนในประเทศไทย ต้องดำเนินการกับ 2 หน่วยงาน คือ กสทช. (NBTC) สำหรับการขึ้นทะเบียนผู้ครอบครองและเครื่องวิทยุคมนาคม และ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) สำหรับการขึ้นทะเบียนผู้บังคับหรือปล่อยโดรน โดรนที่มีน้ำหนัก 2 กิโลกรัมขึ้นไป และโดรนที่มีกล้องบันทึกภาพทุกกรณี ต้องจดทะเบียน โดยต้องดำเนินการภายใน 30 วันหลังซื้อ (กสทช. NBTC)
- ขั้นตอนการจดทะเบียน (กสทช. NBTC)
- ขึ้นทะเบียนผู้ครอบครองโดรน (กับ กสทช.) ทำผ่านระบบออนไลน์: เข้าไปที่เว็บไซต์ กสทช. หรือ UAS Portal สร้างบัญชีผู้ใช้งานและกรอกคำขอ ชำระค่าธรรมเนียมผ่านช่องทางที่กำหนด รอรับเอกสารใบรับรองการขึ้นทะเบียนและใบเสร็จทางอีเมล
- ขึ้นทะเบียนผู้บังคับโดรน (กับ กพท.) ลงทะเบียนออนไลน์เข้าสู่ระบบ UAS Portal สมัครใช้งานระบบ และสร้างบัญชียืนยันตัวตน ผ่าน SMS-OTP และแอปพลิเคชัน ThaiD หรืออัปโหลดเอกสาร (บัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน) ยื่นคำขอเพื่อทำการบินในระบบ
- เอกสารที่ต้องใช้ (1) สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ครอบครอง (2) รูปถ่ายโดรนที่เห็นหมายเลข Serial Number (3) รูปถ่ายรีโมทคอนโทรล ที่เห็น Serial Number (ถ้ามี) (4) ประกันภัยบุคคลที่ 3 (วงเงินไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท) (5) การขึ้นทะเบียนกับ กสทช. มีอายุ 2 ปี และต้องยื่นต่ออายุ (6) การบินโดรนโดยไม่มีการขึ้นทะเบียน อาจมีโทษปรับ และ/หรือจำคุก
แสดงให้เห็นว่า ผู้บังคับโดรนจะต้องศึกษากฎหมายและความรับผิดเกี่ยวกับการใช้โดรนให้เข้าใจพอสมควร เนื่องจากโดรนในปัจจุบันสามารถนำไปใช้ได้ทั้งในแง่ของประโยชน์เพื่อส่วนตัวและส่วนรวม และยังสามารถนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรมและละเมิดต่างๆ ได้ การจดทะเบียนเพื่อยืนยันตัวตนของโดรนจึงเป็นจำเป็นว่าโดรนที่บินอยู่นั้นเป็นของใคร หากมีความเสียหายอันเกิดจากโดรนเจ้าของโดรนจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น หากไม่มีการจดทะเบียนก็ไม่อาจทราบได้ว่าเป็นโดรนของใคร และไม่สามารถสืบหาเจ้าของโดรนได้ จึงมีความจำเป็นต้องประกาศกฎหมายเกี่ยวกับการใช้โดรนไม่ว่าจะใช้เพื่อการใดก็ตาม สวัสดีครับ
ผศ.ปองปรีดา ทองมาดี
(ประธานหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต)
การใช้โดรนนั้นถือว่าเป็นเรื่องสำคัญในสังคมปัจจุบัน เนื่องจากโดรนเป็นเครื่องที่ใช้ในการกระทำความผิดได้ทั้งทางแพ่งและทางอาญา เช่น การใช้โดรนติดกล้องถ่ายวีดีโอไปยังสถานที่ต่างๆ มีการรุกล้ำเข้าไปในท้องฟ้าในที่ดินของบุคคลอื่น เป็นความผิดฐานละเมิดและความเป็นอยู่โดยปกติสุขของเจ้าของที่ดิน ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1335 บัญญัติว่า “…แดนแห่งกรรมสิทธิ์ที่ดินนั้นกินทั้งเหนือพื้นดินและใต้พื้นดินด้วย” ซึ่งโดรนที่บินเหนือที่ดินของผู้อื่นย่อมเป็นการบุกรุกหรือละเมิดต่อเจ้าของที่ดิน ทำให้เกิดเสียงรบกวนหรือถ่ายวีดีโอบริเวณที่อยู่อาศัยส่วนตัวของผู้อื่น หรือใช้โดรนเป็นเครื่องมือในการกระทำผิดฐานฆ่า ทำร้ายร่างกาย ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สิน หรือสร้างความเดือนร้อนลำคาญใจแก่ผู้อื่น เป็นต้น เพราะโดรนสามารถติดอาวุธปืน ระเบิด ยาพิษ เชื้อโรค สารพิษ เพื่อนำมาทิ้งใส่บุคคลหรือบริเวณที่อยู่อาศัยของผู้อื่นได้ หรือใช้โดรนนำยาเสพติดหรือของผิดกฎหมายอื่น
ประกอบกับในสถานการณ์ปัจจุบันประเทศกัมพูชาใช้โดรนติดอาวุธหรือกล้องวีดีโอรุกล้ำเข้ามาในประเทศไทย เพื่อก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนหรือสำรวจการเคลื่อนไหวต่างๆ ในประเทศไทย ซึ่งเป็นการรุกล้ำอาณาเขตของไทยด้วย
อย่างไรก็ตามในด้านของประโยชน์ใช้สอยนั้น โดรนก็ยังมีประโยชน์มากมายทั้งทางด้านพาณิชย์ การเกษตร อุตสาหกรรม การสื่อสาร การขนส่ง การคมนาคม เป็นต้น ดังนั้นการจดทะเบียนโดรนเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน เมื่อมีการใช้โดรนเป็นอาวุธในการกระทำความผิดเกิดขึ้น ก็สามารถดำเนินคดีกับเจ้าของโดรนได้ทันที ซึ่งในบทความนี้จะได้กล่าวถึงกฎหมายเกี่ยวกับการจดทะเบียนโดรน
- โดรน หมายถึง การบินพลเรือนใช้คำศัพท์ว่า อากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ส่วนในการบินทหารใช้คำศัพท์ว่า อากาศยานไร้คนขับ (อังกฤษ: unmanned aerial vehicle: UAV) เป็นอากาศยานซึ่งไม่มีมนุษย์โดยสารอยู่ (Lanzon, A. 2018) แต่อาจบินภายใต้การควบคุมของมนุษย์ผ่านคลื่นวิทยุหรือดาวเทียม เช่น อากาศยานที่ถูกขับจากระยะไกล (remotely-piloted aircraft: RPA) หรืออาจบินโดยมีอิสระในการบังคับตนเองหลาย ๆ ระดับ เช่น กรณีของออโทไพลอต (autopilot) ไปจนถึงอิสระอย่างเต็มรูปแบบซึ่งไม่มีมนุษย์เข้าเกี่ยวข้องเลย (Cary Leslie. et al 2016) หรือ โดรน หมายถึง อากาศยานที่รับคำสั่งจากนักบินระยะไกล หรืออาศัยซอฟต์แวร์เพื่อการบินอัตโนมัติ โดรนหลายรุ่นมีคุณสมบัติเด่น เช่น กล้องสำหรับรวบรวมข้อมูลภาพ และใบพัดสำหรับรักษาเสถียรภาพของรูปแบบการบิน ภาคส่วนต่างๆ เช่น การถ่ายวิดีโอ การค้นหาและกู้ภัย การเกษตร และการขนส่ง ได้นำเทคโนโลยีโดรนมาใช้ (Built in, 2024)
- ตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 อากาศยาน หมายความรวมถึง “เครื่องทั้งสิ้นซึ่งทรงตัวในบรรยากาศ โดยปฏิกิริยาแห่งอากาศ เว้นแต่วัตถุซึ่งระบุยกเว้นไวในกฎกระทรวง”
มาตรา 24 “ห้ามมิให้ผู้ใดบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน หรือทิ้งร่มอากาศ นอกจากได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากรัฐมนตรีและปฏิบัติตามเงื่อนไขที่รัฐมนตรีกำหนด”
มาตรา 78 “ผู้ใดบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากรัฐมนตรีตามมาตรา 24 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
มาตรา 80 “ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง หลักเกณฑ์การขออนุญาตและเงื่อนไข ในการบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก ประกาศ ณ วันที่ 2 กรกฎาคม 2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท”
- ประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง หลักเกณฑ์การขออนุญาตและเงื่อนไขในการบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไมมีนักบินประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก พ.ศ. 2558
อากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก หมายความว่า “อากาศยานที่ควบคุมการบินโดยผู้ควบคุมการบินอยูภายนอกอากาศยานและใช้ระบบควบคุมอากาศยาน ทั้งนี้ ไมรวมถึงเครื่องบินเล็กซึ่งใช้เป็นเครื่องเล่นตามกฎกระทรวงกำหนดวัตถุซึ่งไม่เป็นอากาศยาน พ.ศ. 2548”
ระบบควบคุมอากาศยาน หมายความว่า “ชุดอุปกรณ์อันประกอบด้วยเครื่องเชื่อมโยงคำสั่งควบคุมหรือการบังคับอากาศยาน รวมทั้งสถานีหรือสถานที่ติดตั้งชุดอุปกรณ์เหล่านี้หรือเครื่องมือที่ใช้ควบคุมการบินจากภายนอกและตัวอากาศยานด้วย”
ข้อ 4 อากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอกตามประกาศนี้แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
(1) ประเภทที่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการเล่นเป็นงานอดิเรก เพื่อความบันเทิง หรือเพื่อการกีฬาแบ่งออกเป็น 2 ขนาด คือ (ก) ที่มีน้ำหนักไมเกิน 2 กิโลกรัม (ข) ที่มีน้ำหนักเกิน 2 กิโลกรัม แต่ไม่เกิน 25 กิโลกรัม
(2) ประเภทที่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกจาก (1) ที่มีน้ำหนักไมเกิน 25 กิโลกรัม ดังต่อไปนี้ (ก) เพื่อการรายงานเหตุการณหรือรายงานการจราจร (สื่อมวลชน) (ข) เพื่อการถ่ายภาพ การถ่ายทำหรือการแสดงในภาพยนตร์หรือรายการโทรทัศน์ (ค) เพื่อการวิจัยและพัฒนาอากาศยาน (ง) เพื่อการอื่น ๆ
ข้อ 5 อนุญาตให้บังคับหรือปล่อยอากาศยานที่มีน้ำหนักไมเกิน 2 กิโลกรัม โดยผู้บังคับหรือปล่อยอากาศยานต้องมีอายุเกินกว่า 18 ปบริบูรณ์ เว้นแต่จะมีผู้แทนโดยชอบธรรมควบคุมดูแล และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
(1) ก่อนทำการบิน (ก) ตรวจสอบว่าอากาศยานอยู่ในสภาพที่สามารถทำการบินไดอย่างปลอดภัย ซึ่งรวมถึงตัวอากาศยานและระบบควบคุมอากาศยาน (ข) ไดรับอนุญาตจากเจาของพื้นที่ที่จะทำการบิน (ค) ทำการศึกษาพื้นที่และชั้นของห้วงอากาศที่จะทำการบิน (ง) มีแผนฉุกเฉิน รวมถึงแผนสำหรับกรณีเกิดอุบัติเหตุ การรักษาพยาบาล และการแกปัญหากรณีไมสามารถบังคับอากาศยานได้
(2) ระหว่างบิน
(ก) ห้ามทำการบินในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และรบกวนความสงบสุขของบุคคลอื่น
(ข) ห้ามทำการบินเข้าไปในบริเวณเขตหวงห้าม เขตจำกัด และเขตอันตรายตามที่ประกาศในเอกสารแถลงข่าว การบินของประเทศไทย (Aeronautical Information Publication – Thailand หรือ AIP – Thailand) รวมทั้งสถานที่ราชการ หน่วยงานของรัฐ โรงพยาบาล เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากหน่วยงานเจ้าของพื้นที่
(ค) แนวการบินขึ้นลงของอากาศยานจะต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง
(ง) ผู้บังคับหรือปล่อยอากาศยานต้องสามารถมองเห็นอากาศยานได้ตลอดเวลาที่ทำการบินและห้ามทำการบังคับอากาศยาน โดยอาศัยชุดกล้องบนอากาศยานหรืออุปกรณ์อื่นที่มีลักษณะใกล้เคียง
(จ) ต้องทำการบินในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก ซึ่งสามารถมองเห็นอากาศยานได้อย่างชัดเจน
(ฉ) ห้ามทำการบินเข้าใกล้หรือเข้าไปในเมฆ
(ช) ห้ามทำการบินภายในระยะ 9 กิโลเมตร (5 ไมล์ทะเล) จากสนามบินหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวของอากาศยาน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหรือผู้ดำเนินการสนามบินอนุญาตหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวอนุญาต
(ซ) ห้ามทำการบินโดยใช้ความสูงเกิน 90 เมตร (300 ฟุต) เหนือพื้นดิน
(ฌ) ห้ามทำการบินเหนือเมือง หมู่บ้าน ชุมชน หรือพื้นที่ที่มีคนมาชุมนุมอยู่
(ญ) ห้ามบังคับอากาศยานเข้าใกล้อากาศยานซึ่งมีนักบิน
(ฎ) ห้ามทำการบินละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น
(ฏ) ห้ามทำการบินโดยก่อให้เกิดความเดือดร้อน ความรำคาญแก่ผู้อื่น
(ฐ) ห้ามส่งหรือพาวัตถุอันตรายตามที่กำหนดในกฎกระทรวงหรืออุปกรณ์ปล่อยแสงเลเซอร์ติดไปกับอากาศยาน
(ฑ) ห้ามทำการบินโดยมีระยะห่างในแนวราบกับบุคคล ยานพาหนะ สิ่งก่อสร้างอาคาร ที่ไม่เกี่ยวข้อง กับการปฏิบัติการบินน้อยกว่า 30 เมตร (100 เมตร) ในกรณีอากาศยานที่มีน้ำหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัมและ 50 เมตร (150 ฟุต) ในกรณีอากาศยานที่มีน้ำหนักเกินกว่า 2 กิโลกรัม แต่ไม่เกิน 25 กิโลกรัม
เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแก่อากาศยานให้ผู้บังคับหรือปล่อยอากาศยานแจ้งอุบัติเหตุนั้นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โดยไม่ชักช้า
ข้อ 6 อนุญาตให้บังคับหรือปล่อยอากาศยานที่มีน้ำหนักเกินกว่า 2 กิโลกรัม แต่ไม่เกิน 25 กิโลกรัม และตามข้อ 7 ผู้บังคับต้องมีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ ไม่เป็นผู้มีพฤติการณ์อันเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ และตามข้อ 8 ต้องยื่นคำขอขึ้นทะเบียนต่ออธิบดีพร้อมด้วยหลักฐานและเอกสารตามที่กำหนด และตามข้อ 9 (2) ระหว่างทำการบิน (ก) ต้องปฏิบัติตามข้อ 5 และ (ข) ห้ามทำการบินโดยมีระยะห่างในแนวราบกับบุคคล ยานพาหนะ สิ่งก่อสร้าง อาคารที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการบินน้อยกว่าห้าสิบเมตร (ค) เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแกอากาศยาน ให้บังคับหรือปล่อยอากาศยานแจ้งอุบัติเหตุนั้นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โดยไมชักช้า
ข้อ 10 อนุญาตให้บังคับหรือปล่อยอากาศยานที่มีน้ำหนักไมเกิน 25 กิโลกรัม และตามข้อ 12 ต้องยื่นคำขอขึ้นทะเบียนต่ออธิบดีพรอมด้วยเอกสารและหลักฐาน และปฏิบัติตามข้อ 9
- การจดทะเบียนโดรนในประเทศไทย ต้องดำเนินการกับ 2 หน่วยงาน คือ กสทช. (NBTC) สำหรับการขึ้นทะเบียนผู้ครอบครองและเครื่องวิทยุคมนาคม และ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) สำหรับการขึ้นทะเบียนผู้บังคับหรือปล่อยโดรน โดรนที่มีน้ำหนัก 2 กิโลกรัมขึ้นไป และโดรนที่มีกล้องบันทึกภาพทุกกรณี ต้องจดทะเบียน โดยต้องดำเนินการภายใน 30 วันหลังซื้อ (กสทช. NBTC)
- ขั้นตอนการจดทะเบียน (กสทช. NBTC)
- ขึ้นทะเบียนผู้ครอบครองโดรน (กับ กสทช.) ทำผ่านระบบออนไลน์: เข้าไปที่เว็บไซต์ กสทช. หรือ UAS Portal สร้างบัญชีผู้ใช้งานและกรอกคำขอ ชำระค่าธรรมเนียมผ่านช่องทางที่กำหนด รอรับเอกสารใบรับรองการขึ้นทะเบียนและใบเสร็จทางอีเมล
- ขึ้นทะเบียนผู้บังคับโดรน (กับ กพท.) ลงทะเบียนออนไลน์เข้าสู่ระบบ UAS Portal สมัครใช้งานระบบ และสร้างบัญชียืนยันตัวตน ผ่าน SMS-OTP และแอปพลิเคชัน ThaiD หรืออัปโหลดเอกสาร (บัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน) ยื่นคำขอเพื่อทำการบินในระบบ
- เอกสารที่ต้องใช้ (1) สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ครอบครอง (2) รูปถ่ายโดรนที่เห็นหมายเลข Serial Number (3) รูปถ่ายรีโมทคอนโทรล ที่เห็น Serial Number (ถ้ามี) (4) ประกันภัยบุคคลที่ 3 (วงเงินไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท) (5) การขึ้นทะเบียนกับ กสทช. มีอายุ 2 ปี และต้องยื่นต่ออายุ (6) การบินโดรนโดยไม่มีการขึ้นทะเบียน อาจมีโทษปรับ และ/หรือจำคุก
แสดงให้เห็นว่า ผู้บังคับโดรนจะต้องศึกษากฎหมายและความรับผิดเกี่ยวกับการใช้โดรนให้เข้าใจพอสมควร เนื่องจากโดรนในปัจจุบันสามารถนำไปใช้ได้ทั้งในแง่ของประโยชน์เพื่อส่วนตัวและส่วนรวม และยังสามารถนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรมและละเมิดต่างๆ ได้ การจดทะเบียนเพื่อยืนยันตัวตนของโดรนจึงเป็นจำเป็นว่าโดรนที่บินอยู่นั้นเป็นของใคร หากมีความเสียหายอันเกิดจากโดรนเจ้าของโดรนจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น หากไม่มีการจดทะเบียนก็ไม่อาจทราบได้ว่าเป็นโดรนของใคร และไม่สามารถสืบหาเจ้าของโดรนได้ จึงมีความจำเป็นต้องประกาศกฎหมายเกี่ยวกับการใช้โดรนไม่ว่าจะใช้เพื่อการใดก็ตาม สวัสดีครับ
ผศ.ปองปรีดา ทองมาดี
(ประธานหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต)