31.4 C
Nakhon Sawan
วันอังคาร, กันยายน 16, 2025
spot_img

กฎหมายเกี่ยวกับการใช้โดรน

การใช้โดรนนั้นถือว่าเป็นเรื่องสำคัญในสังคมปัจจุบัน เนื่องจากโดรนเป็นเครื่องที่ใช้ในการกระทำความผิดได้ทั้งทางแพ่งและทางอาญา เช่น การใช้โดรนติดกล้องถ่ายวีดีโอไปยังสถานที่ต่างๆ มีการรุกล้ำเข้าไปในท้องฟ้าในที่ดินของบุคคลอื่น เป็นความผิดฐานละเมิดและความเป็นอยู่โดยปกติสุขของเจ้าของที่ดิน ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1335 บัญญัติว่า “…แดนแห่งกรรมสิทธิ์ที่ดินนั้นกินทั้งเหนือพื้นดินและใต้พื้นดินด้วย” ซึ่งโดรนที่บินเหนือที่ดินของผู้อื่นย่อมเป็นการบุกรุกหรือละเมิดต่อเจ้าของที่ดิน ทำให้เกิดเสียงรบกวนหรือถ่ายวีดีโอบริเวณที่อยู่อาศัยส่วนตัวของผู้อื่น หรือใช้โดรนเป็นเครื่องมือในการกระทำผิดฐานฆ่า ทำร้ายร่างกาย ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สิน หรือสร้างความเดือนร้อนลำคาญใจแก่ผู้อื่น เป็นต้น เพราะโดรนสามารถติดอาวุธปืน ระเบิด ยาพิษ เชื้อโรค สารพิษ เพื่อนำมาทิ้งใส่บุคคลหรือบริเวณที่อยู่อาศัยของผู้อื่นได้ หรือใช้โดรนนำยาเสพติดหรือของผิดกฎหมายอื่น

ประกอบกับในสถานการณ์ปัจจุบันประเทศกัมพูชาใช้โดรนติดอาวุธหรือกล้องวีดีโอรุกล้ำเข้ามาในประเทศไทย เพื่อก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนหรือสำรวจการเคลื่อนไหวต่างๆ ในประเทศไทย ซึ่งเป็นการรุกล้ำอาณาเขตของไทยด้วย

อย่างไรก็ตามในด้านของประโยชน์ใช้สอยนั้น โดรนก็ยังมีประโยชน์มากมายทั้งทางด้านพาณิชย์ การเกษตร อุตสาหกรรม การสื่อสาร การขนส่ง การคมนาคม เป็นต้น ดังนั้นการจดทะเบียนโดรนเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน เมื่อมีการใช้โดรนเป็นอาวุธในการกระทำความผิดเกิดขึ้น ก็สามารถดำเนินคดีกับเจ้าของโดรนได้ทันที ซึ่งในบทความนี้จะได้กล่าวถึงกฎหมายเกี่ยวกับการจดทะเบียนโดรน

  1. โดรน หมายถึง การบินพลเรือนใช้คำศัพท์ว่า อากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ส่วนในการบินทหารใช้คำศัพท์ว่า อากาศยานไร้คนขับ (อังกฤษ: unmanned aerial vehicle: UAV) เป็นอากาศยานซึ่งไม่มีมนุษย์โดยสารอยู่ (Lanzon, A. 2018) แต่อาจบินภายใต้การควบคุมของมนุษย์ผ่านคลื่นวิทยุหรือดาวเทียม เช่น อากาศยานที่ถูกขับจากระยะไกล (remotely-piloted aircraft: RPA) หรืออาจบินโดยมีอิสระในการบังคับตนเองหลาย ๆ ระดับ เช่น กรณีของออโทไพลอต (autopilot) ไปจนถึงอิสระอย่างเต็มรูปแบบซึ่งไม่มีมนุษย์เข้าเกี่ยวข้องเลย (Cary Leslie. et al 2016) หรือ โดรน หมายถึง อากาศยานที่รับคำสั่งจากนักบินระยะไกล หรืออาศัยซอฟต์แวร์เพื่อการบินอัตโนมัติ โดรนหลายรุ่นมีคุณสมบัติเด่น เช่น กล้องสำหรับรวบรวมข้อมูลภาพ และใบพัดสำหรับรักษาเสถียรภาพของรูปแบบการบิน ภาคส่วนต่างๆ เช่น การถ่ายวิดีโอ การค้นหาและกู้ภัย การเกษตร และการขนส่ง ได้นำเทคโนโลยีโดรนมาใช้ (Built in, 2024)
  2. ตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 อากาศยาน หมายความรวมถึง “เครื่องทั้งสิ้นซึ่งทรงตัวในบรรยากาศ โดยปฏิกิริยาแห่งอากาศ เว้นแต่วัตถุซึ่งระบุยกเว้นไวในกฎกระทรวง”

มาตรา 24  “ห้ามมิให้ผู้ใดบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน หรือทิ้งร่มอากาศ นอกจากได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากรัฐมนตรีและปฏิบัติตามเงื่อนไขที่รัฐมนตรีกำหนด”

มาตรา 78 “ผู้ใดบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากรัฐมนตรีตามมาตรา 24 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

มาตรา 80 “ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง หลักเกณฑ์การขออนุญาตและเงื่อนไข ในการบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก ประกาศ ณ วันที่ 2 กรกฎาคม 2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท”

  1. ประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง หลักเกณฑ์การขออนุญาตและเงื่อนไขในการบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไมมีนักบินประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก พ.ศ. 2558

อากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก หมายความว่า “อากาศยานที่ควบคุมการบินโดยผู้ควบคุมการบินอยูภายนอกอากาศยานและใช้ระบบควบคุมอากาศยาน ทั้งนี้ ไมรวมถึงเครื่องบินเล็กซึ่งใช้เป็นเครื่องเล่นตามกฎกระทรวงกำหนดวัตถุซึ่งไม่เป็นอากาศยาน พ.ศ. 2548

ระบบควบคุมอากาศยาน หมายความว่า “ชุดอุปกรณ์อันประกอบด้วยเครื่องเชื่อมโยงคำสั่งควบคุมหรือการบังคับอากาศยาน รวมทั้งสถานีหรือสถานที่ติดตั้งชุดอุปกรณ์เหล่านี้หรือเครื่องมือที่ใช้ควบคุมการบินจากภายนอกและตัวอากาศยานด้วย”

ข้อ 4 อากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอกตามประกาศนี้แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้

(1) ประเภทที่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการเล่นเป็นงานอดิเรก เพื่อความบันเทิง หรือเพื่อการกีฬาแบ่งออกเป็น 2 ขนาด คือ (ก) ที่มีน้ำหนักไมเกิน 2 กิโลกรัม (ข) ที่มีน้ำหนักเกิน 2 กิโลกรัม แต่ไม่เกิน 25 กิโลกรัม

(2) ประเภทที่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกจาก (1) ที่มีน้ำหนักไมเกิน 25 กิโลกรัม ดังต่อไปนี้ (ก) เพื่อการรายงานเหตุการณหรือรายงานการจราจร (สื่อมวลชน) (ข) เพื่อการถ่ายภาพ การถ่ายทำหรือการแสดงในภาพยนตร์หรือรายการโทรทัศน์ (ค) เพื่อการวิจัยและพัฒนาอากาศยาน (ง) เพื่อการอื่น ๆ

ข้อ 5 อนุญาตให้บังคับหรือปล่อยอากาศยานที่มีน้ำหนักไมเกิน 2 กิโลกรัม โดยผู้บังคับหรือปล่อยอากาศยานต้องมีอายุเกินกว่า 18 ปบริบูรณ์ เว้นแต่จะมีผู้แทนโดยชอบธรรมควบคุมดูแล และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ดังต่อไปนี้

(1) ก่อนทำการบิน (ก) ตรวจสอบว่าอากาศยานอยู่ในสภาพที่สามารถทำการบินไดอย่างปลอดภัย ซึ่งรวมถึงตัวอากาศยานและระบบควบคุมอากาศยาน (ข) ไดรับอนุญาตจากเจาของพื้นที่ที่จะทำการบิน (ค) ทำการศึกษาพื้นที่และชั้นของห้วงอากาศที่จะทำการบิน (ง) มีแผนฉุกเฉิน รวมถึงแผนสำหรับกรณีเกิดอุบัติเหตุ การรักษาพยาบาล และการแกปัญหากรณีไมสามารถบังคับอากาศยานได้

(2) ระหว่างบิน

(ก) ห้ามทำการบินในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และรบกวนความสงบสุขของบุคคลอื่น

(ข) ห้ามทำการบินเข้าไปในบริเวณเขตหวงห้าม เขตจำกัด และเขตอันตรายตามที่ประกาศในเอกสารแถลงข่าว การบินของประเทศไทย (Aeronautical Information Publication – Thailand หรือ AIP – Thailand) รวมทั้งสถานที่ราชการ หน่วยงานของรัฐ โรงพยาบาล เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากหน่วยงานเจ้าของพื้นที่

(ค) แนวการบินขึ้นลงของอากาศยานจะต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง

(ง) ผู้บังคับหรือปล่อยอากาศยานต้องสามารถมองเห็นอากาศยานได้ตลอดเวลาที่ทำการบินและห้ามทำการบังคับอากาศยาน โดยอาศัยชุดกล้องบนอากาศยานหรืออุปกรณ์อื่นที่มีลักษณะใกล้เคียง

(จ) ต้องทำการบินในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก ซึ่งสามารถมองเห็นอากาศยานได้อย่างชัดเจน

(ฉ) ห้ามทำการบินเข้าใกล้หรือเข้าไปในเมฆ

(ช) ห้ามทำการบินภายในระยะ 9 กิโลเมตร (5 ไมล์ทะเล) จากสนามบินหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวของอากาศยาน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหรือผู้ดำเนินการสนามบินอนุญาตหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวอนุญาต

(ซ) ห้ามทำการบินโดยใช้ความสูงเกิน 90 เมตร (300 ฟุต) เหนือพื้นดิน

(ฌ) ห้ามทำการบินเหนือเมือง หมู่บ้าน ชุมชน หรือพื้นที่ที่มีคนมาชุมนุมอยู่

(ญ) ห้ามบังคับอากาศยานเข้าใกล้อากาศยานซึ่งมีนักบิน

(ฎ) ห้ามทำการบินละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น

(ฏ) ห้ามทำการบินโดยก่อให้เกิดความเดือดร้อน ความรำคาญแก่ผู้อื่น

(ฐ) ห้ามส่งหรือพาวัตถุอันตรายตามที่กำหนดในกฎกระทรวงหรืออุปกรณ์ปล่อยแสงเลเซอร์ติดไปกับอากาศยาน

(ฑ) ห้ามทำการบินโดยมีระยะห่างในแนวราบกับบุคคล ยานพาหนะ สิ่งก่อสร้างอาคาร ที่ไม่เกี่ยวข้อง กับการปฏิบัติการบินน้อยกว่า 30 เมตร (100 เมตร) ในกรณีอากาศยานที่มีน้ำหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัมและ 50 เมตร (150 ฟุต) ในกรณีอากาศยานที่มีน้ำหนักเกินกว่า 2 กิโลกรัม แต่ไม่เกิน 25 กิโลกรัม

เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแก่อากาศยานให้ผู้บังคับหรือปล่อยอากาศยานแจ้งอุบัติเหตุนั้นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โดยไม่ชักช้า

ข้อ 6 อนุญาตให้บังคับหรือปล่อยอากาศยานที่มีน้ำหนักเกินกว่า 2 กิโลกรัม แต่ไม่เกิน 25 กิโลกรัม และตามข้อ 7 ผู้บังคับต้องมีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ ไม่เป็นผู้มีพฤติการณ์อันเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ และตามข้อ 8 ต้องยื่นคำขอขึ้นทะเบียนต่ออธิบดีพร้อมด้วยหลักฐานและเอกสารตามที่กำหนด และตามข้อ 9 (2) ระหว่างทำการบิน (ก) ต้องปฏิบัติตามข้อ 5 และ (ข) ห้ามทำการบินโดยมีระยะห่างในแนวราบกับบุคคล ยานพาหนะ สิ่งก่อสร้าง อาคารที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการบินน้อยกว่าห้าสิบเมตร (ค) เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแกอากาศยาน ให้บังคับหรือปล่อยอากาศยานแจ้งอุบัติเหตุนั้นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โดยไมชักช้า

ข้อ 10 อนุญาตให้บังคับหรือปล่อยอากาศยานที่มีน้ำหนักไมเกิน 25 กิโลกรัม และตามข้อ 12 ต้องยื่นคำขอขึ้นทะเบียนต่ออธิบดีพรอมด้วยเอกสารและหลักฐาน และปฏิบัติตามข้อ 9

  1. การจดทะเบียนโดรนในประเทศไทย ต้องดำเนินการกับ 2 หน่วยงาน คือ กสทช. (NBTC) สำหรับการขึ้นทะเบียนผู้ครอบครองและเครื่องวิทยุคมนาคม และ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) สำหรับการขึ้นทะเบียนผู้บังคับหรือปล่อยโดรน โดรนที่มีน้ำหนัก 2 กิโลกรัมขึ้นไป และโดรนที่มีกล้องบันทึกภาพทุกกรณี ต้องจดทะเบียน โดยต้องดำเนินการภายใน 30 วันหลังซื้อ (กสทช. NBTC)
  2. ขั้นตอนการจดทะเบียน (กสทช. NBTC)
  3. ขึ้นทะเบียนผู้ครอบครองโดรน (กับ กสทช.) ทำผ่านระบบออนไลน์: เข้าไปที่เว็บไซต์ กสทช. หรือ UAS Portal สร้างบัญชีผู้ใช้งานและกรอกคำขอ ชำระค่าธรรมเนียมผ่านช่องทางที่กำหนด รอรับเอกสารใบรับรองการขึ้นทะเบียนและใบเสร็จทางอีเมล
  4. ขึ้นทะเบียนผู้บังคับโดรน (กับ กพท.) ลงทะเบียนออนไลน์เข้าสู่ระบบ UAS Portal สมัครใช้งานระบบ และสร้างบัญชียืนยันตัวตน ผ่าน SMS-OTP และแอปพลิเคชัน ThaiD หรืออัปโหลดเอกสาร (บัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน) ยื่นคำขอเพื่อทำการบินในระบบ
  5. เอกสารที่ต้องใช้ (1) สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ครอบครอง (2) รูปถ่ายโดรนที่เห็นหมายเลข Serial Number (3) รูปถ่ายรีโมทคอนโทรล ที่เห็น Serial Number (ถ้ามี) (4) ประกันภัยบุคคลที่ 3 (วงเงินไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท) (5) การขึ้นทะเบียนกับ กสทช. มีอายุ 2 ปี และต้องยื่นต่ออายุ (6) การบินโดรนโดยไม่มีการขึ้นทะเบียน อาจมีโทษปรับ และ/หรือจำคุก

แสดงให้เห็นว่า ผู้บังคับโดรนจะต้องศึกษากฎหมายและความรับผิดเกี่ยวกับการใช้โดรนให้เข้าใจพอสมควร เนื่องจากโดรนในปัจจุบันสามารถนำไปใช้ได้ทั้งในแง่ของประโยชน์เพื่อส่วนตัวและส่วนรวม และยังสามารถนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรมและละเมิดต่างๆ ได้ การจดทะเบียนเพื่อยืนยันตัวตนของโดรนจึงเป็นจำเป็นว่าโดรนที่บินอยู่นั้นเป็นของใคร หากมีความเสียหายอันเกิดจากโดรนเจ้าของโดรนจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น หากไม่มีการจดทะเบียนก็ไม่อาจทราบได้ว่าเป็นโดรนของใคร และไม่สามารถสืบหาเจ้าของโดรนได้ จึงมีความจำเป็นต้องประกาศกฎหมายเกี่ยวกับการใช้โดรนไม่ว่าจะใช้เพื่อการใดก็ตาม สวัสดีครับ

 

 

 

 

ผศ.ปองปรีดา ทองมาดี

(ประธานหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต)

การใช้โดรนนั้นถือว่าเป็นเรื่องสำคัญในสังคมปัจจุบัน เนื่องจากโดรนเป็นเครื่องที่ใช้ในการกระทำความผิดได้ทั้งทางแพ่งและทางอาญา เช่น การใช้โดรนติดกล้องถ่ายวีดีโอไปยังสถานที่ต่างๆ มีการรุกล้ำเข้าไปในท้องฟ้าในที่ดินของบุคคลอื่น เป็นความผิดฐานละเมิดและความเป็นอยู่โดยปกติสุขของเจ้าของที่ดิน ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1335 บัญญัติว่า “…แดนแห่งกรรมสิทธิ์ที่ดินนั้นกินทั้งเหนือพื้นดินและใต้พื้นดินด้วย” ซึ่งโดรนที่บินเหนือที่ดินของผู้อื่นย่อมเป็นการบุกรุกหรือละเมิดต่อเจ้าของที่ดิน ทำให้เกิดเสียงรบกวนหรือถ่ายวีดีโอบริเวณที่อยู่อาศัยส่วนตัวของผู้อื่น หรือใช้โดรนเป็นเครื่องมือในการกระทำผิดฐานฆ่า ทำร้ายร่างกาย ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สิน หรือสร้างความเดือนร้อนลำคาญใจแก่ผู้อื่น เป็นต้น เพราะโดรนสามารถติดอาวุธปืน ระเบิด ยาพิษ เชื้อโรค สารพิษ เพื่อนำมาทิ้งใส่บุคคลหรือบริเวณที่อยู่อาศัยของผู้อื่นได้ หรือใช้โดรนนำยาเสพติดหรือของผิดกฎหมายอื่น

ประกอบกับในสถานการณ์ปัจจุบันประเทศกัมพูชาใช้โดรนติดอาวุธหรือกล้องวีดีโอรุกล้ำเข้ามาในประเทศไทย เพื่อก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนหรือสำรวจการเคลื่อนไหวต่างๆ ในประเทศไทย ซึ่งเป็นการรุกล้ำอาณาเขตของไทยด้วย

อย่างไรก็ตามในด้านของประโยชน์ใช้สอยนั้น โดรนก็ยังมีประโยชน์มากมายทั้งทางด้านพาณิชย์ การเกษตร อุตสาหกรรม การสื่อสาร การขนส่ง การคมนาคม เป็นต้น ดังนั้นการจดทะเบียนโดรนเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน เมื่อมีการใช้โดรนเป็นอาวุธในการกระทำความผิดเกิดขึ้น ก็สามารถดำเนินคดีกับเจ้าของโดรนได้ทันที ซึ่งในบทความนี้จะได้กล่าวถึงกฎหมายเกี่ยวกับการจดทะเบียนโดรน

  1. โดรน หมายถึง การบินพลเรือนใช้คำศัพท์ว่า อากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ส่วนในการบินทหารใช้คำศัพท์ว่า อากาศยานไร้คนขับ (อังกฤษ: unmanned aerial vehicle: UAV) เป็นอากาศยานซึ่งไม่มีมนุษย์โดยสารอยู่ (Lanzon, A. 2018) แต่อาจบินภายใต้การควบคุมของมนุษย์ผ่านคลื่นวิทยุหรือดาวเทียม เช่น อากาศยานที่ถูกขับจากระยะไกล (remotely-piloted aircraft: RPA) หรืออาจบินโดยมีอิสระในการบังคับตนเองหลาย ๆ ระดับ เช่น กรณีของออโทไพลอต (autopilot) ไปจนถึงอิสระอย่างเต็มรูปแบบซึ่งไม่มีมนุษย์เข้าเกี่ยวข้องเลย (Cary Leslie. et al 2016) หรือ โดรน หมายถึง อากาศยานที่รับคำสั่งจากนักบินระยะไกล หรืออาศัยซอฟต์แวร์เพื่อการบินอัตโนมัติ โดรนหลายรุ่นมีคุณสมบัติเด่น เช่น กล้องสำหรับรวบรวมข้อมูลภาพ และใบพัดสำหรับรักษาเสถียรภาพของรูปแบบการบิน ภาคส่วนต่างๆ เช่น การถ่ายวิดีโอ การค้นหาและกู้ภัย การเกษตร และการขนส่ง ได้นำเทคโนโลยีโดรนมาใช้ (Built in, 2024)
  2. ตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 อากาศยาน หมายความรวมถึง “เครื่องทั้งสิ้นซึ่งทรงตัวในบรรยากาศ โดยปฏิกิริยาแห่งอากาศ เว้นแต่วัตถุซึ่งระบุยกเว้นไวในกฎกระทรวง”

มาตรา 24  “ห้ามมิให้ผู้ใดบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน หรือทิ้งร่มอากาศ นอกจากได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากรัฐมนตรีและปฏิบัติตามเงื่อนไขที่รัฐมนตรีกำหนด”

มาตรา 78 “ผู้ใดบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากรัฐมนตรีตามมาตรา 24 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

มาตรา 80 “ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง หลักเกณฑ์การขออนุญาตและเงื่อนไข ในการบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก ประกาศ ณ วันที่ 2 กรกฎาคม 2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท”

  1. ประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง หลักเกณฑ์การขออนุญาตและเงื่อนไขในการบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไมมีนักบินประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก พ.ศ. 2558

อากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก หมายความว่า “อากาศยานที่ควบคุมการบินโดยผู้ควบคุมการบินอยูภายนอกอากาศยานและใช้ระบบควบคุมอากาศยาน ทั้งนี้ ไมรวมถึงเครื่องบินเล็กซึ่งใช้เป็นเครื่องเล่นตามกฎกระทรวงกำหนดวัตถุซึ่งไม่เป็นอากาศยาน พ.ศ. 2548

ระบบควบคุมอากาศยาน หมายความว่า “ชุดอุปกรณ์อันประกอบด้วยเครื่องเชื่อมโยงคำสั่งควบคุมหรือการบังคับอากาศยาน รวมทั้งสถานีหรือสถานที่ติดตั้งชุดอุปกรณ์เหล่านี้หรือเครื่องมือที่ใช้ควบคุมการบินจากภายนอกและตัวอากาศยานด้วย”

ข้อ 4 อากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอกตามประกาศนี้แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้

(1) ประเภทที่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการเล่นเป็นงานอดิเรก เพื่อความบันเทิง หรือเพื่อการกีฬาแบ่งออกเป็น 2 ขนาด คือ (ก) ที่มีน้ำหนักไมเกิน 2 กิโลกรัม (ข) ที่มีน้ำหนักเกิน 2 กิโลกรัม แต่ไม่เกิน 25 กิโลกรัม

(2) ประเภทที่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกจาก (1) ที่มีน้ำหนักไมเกิน 25 กิโลกรัม ดังต่อไปนี้ (ก) เพื่อการรายงานเหตุการณหรือรายงานการจราจร (สื่อมวลชน) (ข) เพื่อการถ่ายภาพ การถ่ายทำหรือการแสดงในภาพยนตร์หรือรายการโทรทัศน์ (ค) เพื่อการวิจัยและพัฒนาอากาศยาน (ง) เพื่อการอื่น ๆ

ข้อ 5 อนุญาตให้บังคับหรือปล่อยอากาศยานที่มีน้ำหนักไมเกิน 2 กิโลกรัม โดยผู้บังคับหรือปล่อยอากาศยานต้องมีอายุเกินกว่า 18 ปบริบูรณ์ เว้นแต่จะมีผู้แทนโดยชอบธรรมควบคุมดูแล และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ดังต่อไปนี้

(1) ก่อนทำการบิน (ก) ตรวจสอบว่าอากาศยานอยู่ในสภาพที่สามารถทำการบินไดอย่างปลอดภัย ซึ่งรวมถึงตัวอากาศยานและระบบควบคุมอากาศยาน (ข) ไดรับอนุญาตจากเจาของพื้นที่ที่จะทำการบิน (ค) ทำการศึกษาพื้นที่และชั้นของห้วงอากาศที่จะทำการบิน (ง) มีแผนฉุกเฉิน รวมถึงแผนสำหรับกรณีเกิดอุบัติเหตุ การรักษาพยาบาล และการแกปัญหากรณีไมสามารถบังคับอากาศยานได้

(2) ระหว่างบิน

(ก) ห้ามทำการบินในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และรบกวนความสงบสุขของบุคคลอื่น

(ข) ห้ามทำการบินเข้าไปในบริเวณเขตหวงห้าม เขตจำกัด และเขตอันตรายตามที่ประกาศในเอกสารแถลงข่าว การบินของประเทศไทย (Aeronautical Information Publication – Thailand หรือ AIP – Thailand) รวมทั้งสถานที่ราชการ หน่วยงานของรัฐ โรงพยาบาล เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากหน่วยงานเจ้าของพื้นที่

(ค) แนวการบินขึ้นลงของอากาศยานจะต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง

(ง) ผู้บังคับหรือปล่อยอากาศยานต้องสามารถมองเห็นอากาศยานได้ตลอดเวลาที่ทำการบินและห้ามทำการบังคับอากาศยาน โดยอาศัยชุดกล้องบนอากาศยานหรืออุปกรณ์อื่นที่มีลักษณะใกล้เคียง

(จ) ต้องทำการบินในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก ซึ่งสามารถมองเห็นอากาศยานได้อย่างชัดเจน

(ฉ) ห้ามทำการบินเข้าใกล้หรือเข้าไปในเมฆ

(ช) ห้ามทำการบินภายในระยะ 9 กิโลเมตร (5 ไมล์ทะเล) จากสนามบินหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวของอากาศยาน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหรือผู้ดำเนินการสนามบินอนุญาตหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวอนุญาต

(ซ) ห้ามทำการบินโดยใช้ความสูงเกิน 90 เมตร (300 ฟุต) เหนือพื้นดิน

(ฌ) ห้ามทำการบินเหนือเมือง หมู่บ้าน ชุมชน หรือพื้นที่ที่มีคนมาชุมนุมอยู่

(ญ) ห้ามบังคับอากาศยานเข้าใกล้อากาศยานซึ่งมีนักบิน

(ฎ) ห้ามทำการบินละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น

(ฏ) ห้ามทำการบินโดยก่อให้เกิดความเดือดร้อน ความรำคาญแก่ผู้อื่น

(ฐ) ห้ามส่งหรือพาวัตถุอันตรายตามที่กำหนดในกฎกระทรวงหรืออุปกรณ์ปล่อยแสงเลเซอร์ติดไปกับอากาศยาน

(ฑ) ห้ามทำการบินโดยมีระยะห่างในแนวราบกับบุคคล ยานพาหนะ สิ่งก่อสร้างอาคาร ที่ไม่เกี่ยวข้อง กับการปฏิบัติการบินน้อยกว่า 30 เมตร (100 เมตร) ในกรณีอากาศยานที่มีน้ำหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัมและ 50 เมตร (150 ฟุต) ในกรณีอากาศยานที่มีน้ำหนักเกินกว่า 2 กิโลกรัม แต่ไม่เกิน 25 กิโลกรัม

เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแก่อากาศยานให้ผู้บังคับหรือปล่อยอากาศยานแจ้งอุบัติเหตุนั้นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โดยไม่ชักช้า

ข้อ 6 อนุญาตให้บังคับหรือปล่อยอากาศยานที่มีน้ำหนักเกินกว่า 2 กิโลกรัม แต่ไม่เกิน 25 กิโลกรัม และตามข้อ 7 ผู้บังคับต้องมีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ ไม่เป็นผู้มีพฤติการณ์อันเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ และตามข้อ 8 ต้องยื่นคำขอขึ้นทะเบียนต่ออธิบดีพร้อมด้วยหลักฐานและเอกสารตามที่กำหนด และตามข้อ 9 (2) ระหว่างทำการบิน (ก) ต้องปฏิบัติตามข้อ 5 และ (ข) ห้ามทำการบินโดยมีระยะห่างในแนวราบกับบุคคล ยานพาหนะ สิ่งก่อสร้าง อาคารที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการบินน้อยกว่าห้าสิบเมตร (ค) เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแกอากาศยาน ให้บังคับหรือปล่อยอากาศยานแจ้งอุบัติเหตุนั้นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โดยไมชักช้า

ข้อ 10 อนุญาตให้บังคับหรือปล่อยอากาศยานที่มีน้ำหนักไมเกิน 25 กิโลกรัม และตามข้อ 12 ต้องยื่นคำขอขึ้นทะเบียนต่ออธิบดีพรอมด้วยเอกสารและหลักฐาน และปฏิบัติตามข้อ 9

  1. การจดทะเบียนโดรนในประเทศไทย ต้องดำเนินการกับ 2 หน่วยงาน คือ กสทช. (NBTC) สำหรับการขึ้นทะเบียนผู้ครอบครองและเครื่องวิทยุคมนาคม และ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) สำหรับการขึ้นทะเบียนผู้บังคับหรือปล่อยโดรน โดรนที่มีน้ำหนัก 2 กิโลกรัมขึ้นไป และโดรนที่มีกล้องบันทึกภาพทุกกรณี ต้องจดทะเบียน โดยต้องดำเนินการภายใน 30 วันหลังซื้อ (กสทช. NBTC)
  2. ขั้นตอนการจดทะเบียน (กสทช. NBTC)
  3. ขึ้นทะเบียนผู้ครอบครองโดรน (กับ กสทช.) ทำผ่านระบบออนไลน์: เข้าไปที่เว็บไซต์ กสทช. หรือ UAS Portal สร้างบัญชีผู้ใช้งานและกรอกคำขอ ชำระค่าธรรมเนียมผ่านช่องทางที่กำหนด รอรับเอกสารใบรับรองการขึ้นทะเบียนและใบเสร็จทางอีเมล
  4. ขึ้นทะเบียนผู้บังคับโดรน (กับ กพท.) ลงทะเบียนออนไลน์เข้าสู่ระบบ UAS Portal สมัครใช้งานระบบ และสร้างบัญชียืนยันตัวตน ผ่าน SMS-OTP และแอปพลิเคชัน ThaiD หรืออัปโหลดเอกสาร (บัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน) ยื่นคำขอเพื่อทำการบินในระบบ
  5. เอกสารที่ต้องใช้ (1) สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ครอบครอง (2) รูปถ่ายโดรนที่เห็นหมายเลข Serial Number (3) รูปถ่ายรีโมทคอนโทรล ที่เห็น Serial Number (ถ้ามี) (4) ประกันภัยบุคคลที่ 3 (วงเงินไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท) (5) การขึ้นทะเบียนกับ กสทช. มีอายุ 2 ปี และต้องยื่นต่ออายุ (6) การบินโดรนโดยไม่มีการขึ้นทะเบียน อาจมีโทษปรับ และ/หรือจำคุก

แสดงให้เห็นว่า ผู้บังคับโดรนจะต้องศึกษากฎหมายและความรับผิดเกี่ยวกับการใช้โดรนให้เข้าใจพอสมควร เนื่องจากโดรนในปัจจุบันสามารถนำไปใช้ได้ทั้งในแง่ของประโยชน์เพื่อส่วนตัวและส่วนรวม และยังสามารถนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรมและละเมิดต่างๆ ได้ การจดทะเบียนเพื่อยืนยันตัวตนของโดรนจึงเป็นจำเป็นว่าโดรนที่บินอยู่นั้นเป็นของใคร หากมีความเสียหายอันเกิดจากโดรนเจ้าของโดรนจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น หากไม่มีการจดทะเบียนก็ไม่อาจทราบได้ว่าเป็นโดรนของใคร และไม่สามารถสืบหาเจ้าของโดรนได้ จึงมีความจำเป็นต้องประกาศกฎหมายเกี่ยวกับการใช้โดรนไม่ว่าจะใช้เพื่อการใดก็ตาม สวัสดีครับ

 

ผศ.ปองปรีดา ทองมาดี

(ประธานหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต)

บทความก่อนหน้านี้
บทความถัดไป

ติดตามเราที่

149แฟนคลับชอบ
spot_img

ข่าวลาสุด