โลกวันนี้เปลี่ยนแปลง…แต่ก็ยังเหมือนเดิม เพียงแต่เปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น…แรงขึ้น…และผันผวนสูง
ณ พ.ศ. นี้ นับเวลาได้เป็นทศวรรษ ที่โลกเจอวิกฤตในหลายๆด้าน หนึ่งในนั้นคือเรื่องของเศรษฐกิจที่ส่งผลให้การประกอบธุรกิจไม่บรรลุเป้าหมายในหลายประเทศ ประเมินผลตรวจสอบได้จากค่า GDP ที่ตกต่ำลง
ประเทศไทยก็เช่นกัน ที่เจอกับวิกฤตทางเศรษฐกิจติดต่อกันมาหลายปี ทำให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กอย่าง SMEs หลายธุรกิจถึงกับต้องปิดกิจการลง
บริษัทในต่างจังหวัดก็เช่นเดียวกันกับธุรกิจ SMEs ในท้องถิ่นอื่นๆ และเช่นเดียวกับผู้ประกอบการผลิตสินค้าทั่วประเทศ ก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน
ดังนั้น หากไม่มีการปรับปรุงและพัฒนาองค์กรให้มีความแข็งแกร่ง ในยามที่เกิดสภาวะ Worst Case ขึ้นเช่นนี้ ย่อมต้องได้รับผลกระทบเป็นเวลายาวนาน
ในปัจจุบันเราจะได้ยินแต่ข่าวร้ายในเกือบทุกวัน ทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือน เช่น
1.ข่าวเกี่ยวกับเรื่องภาษี ที่อเมริกา จะเรียกเก็บกับการค้ากับไทย
2.ข่าวเรื่องคนตกงาน
3.ข่าวเกี่ยวกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี AI
4.ข่าวเกี่ยวกับสังคมผู้สูงอายุ Aging Society
5.ข่าวเกี่ยวกับทุนจีนบุกรุกธุรกิจในไทย
6.ข่าวเกี่ยวกับสภาพดินฟ้าอากาศที่เปลี่ยนแปง Climate Change
7.ข่าวเรื่องเศรษฐกิจซบเซา ฯลฯ
โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับ ESG : Environmental Social Governance คือมิติด้านสิ่งแวดล้อม
การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจ ต่อสังคม จึงต้องพิจารณาการบริหารทรัพยากรอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมต่อความเป็นอยู่ของสังคมทั้งภายในและภายนอก
ESG เป็นปัจจัยสำคัญสู่แนวทางประกอบธุรกิจตามหลักความยั่งยืน เพื่อวัดผลและพัฒนาการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงทั้งผลกำไร ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และการบริหาร
E : Environment คือสิ่งแวดล้อม
S : Social คือสังคม
G : Governance คือ บรรษัทภิบาล เน้นความโปร่งใส ความรับผิดชอบ ความซื่อสัตย์
8.ข่าวเกี่ยวกับการเมืองไทยที่ไม่เสถียร เปลี่ยนรัฐบาลบ่อย
ฯลฯ
ดังนั้น เราต้องกลับมาสำรวจตัวเราก่อน เพื่อจะได้พัฒนาปรับตัวได้ถูกต้อง สิ่งที่เราต้องถามตัวเราเองคือ… “อะไรคือจุดแข็ง ของเรา”
วันนี้… “โลกเก่า” กำลังล่มสลาย “โลกใหม่” กำลังต่อสู้เพื่อจะหาทางเกิดขึ้น เราจึงต้องเข้าใจตัวเราเองก่อนผ่าน 3 D Framework คือ
1.Detect ภูมิใจในสิ่งที่มี เรามีอะไรดีกว่าคนอื่น เราเก่งกว่าคนอื่นอย่างไร?
2.Defire สิ่งที่แตกต่าง และคนอื่นไม่มี
3.Design เริ่มออกแบบสินค้าและบริการ คิดสิ่งใหม่ๆ
สิ่งที่ผู้นำองค์กรจะวางแผนบริหารกิจการ จึงต้องมองอย่างน้อยๆก็ 2 ทาง คือ
หนึ่ง…แนวโน้มของสังคมโลก Trends กระแสหรือสมัยนิยม มองให้ออกว่าลูกค้าต้องการอะไร
สอง…ความสามารถในการแข่งขัน Competitiveness เรามีทีมที่มีฝีมือจริงไหม ?
วันนี้ จะเป็นนักบริหาร เป็นผู้นำในธุรกิจต้องโฟกัส ที่
1.เข้าใจโลก…2.เข้าใจตัวเอง…3.ลับฝีมือ…และ 4.หาเพื่อน
ประการสุดท้าย ที่ผู้นำกำลังอยู่ในสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจเช่นนี้ ต้องสังเกตเห็น 5 เทรนด์สำคัญที่โลกกำลังมุ่งไปคือ
1.Hyperfocus คือภาวะที่บุคคลมีสมาธิจดจ่อกับบางสิ่งบางอย่างมากเป็นพิเศษและต่อเนื่องจนมองข้ามสิ่งรอบข้างไป ภาวะนี้พบได้บ่อยในหมู่ผู้เป็นโรคสมาธิสั้น ลูกค้ายุคนี้ไม่ต้องการของแพง แต่ต้องการสินค้าที่ตอบความต้องการได้
2.Wellness คือความเป็นอยู่ที่ดี เป็นกระบวนการดำเนินชีวิตที่มุ่งสร้างภาวะที่ดีอย่างสมบูรณ์ทั้งในมิติต่างๆของชีวิต ทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ จิตวิญญาณ สังคมปัญญา การเงิน และสิ่งแวดล้อม โดยเน้นที่การป้องกันก่อนการเกิดโรค ผ่านการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ดังนั้นสินค้าเดี่ยวกับสุขภาพจึงมาแรง
3.Natural lP : Intellectual Property ว่าด้วยเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาตามธรรมชาติ เช่นภูมิปัญญาท้องถิ่น ทรัพยากรชีวภาพ ลูกค้าต้องการรู้ว่าสินค้ามาจากไหน? ใครเป็นคนทำ?
4.Sustain คือความเห็นชอบ ซึ่งหมายถึงการยอมรับว่าการกระทำหรือการโต้แย้งนั้นถูกต้องตามกฏหมายและสมเหตุสมผล โดยการยืนยันให้คงไว้ซึ่งความถูกต้องนั้น ผู้ร่วมค้าต้องช่วยลดสภาวะของโลก ลดโลกร้อน ลดคาร์บอน
5.AI คือปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งหมายถึงความสามารถของเครื่องจักรในการเลียนแบบสติปัญญาของมนุษย์ AI จะช่วยลดต้นทุน…เพิ่มผลผลิตให้สูงขึ้น Productivity…ขยายขอบเขตความรู้…ขยายความคิดสร้างสรรค์ Creativity
ทั้ง 5 เหตุการณ์ส่งผลถึงการบริหารจัดการที่ต้องคำนึงถึงในการวางแผนทางการตลาดสู่ยุคของคนรุ่นใหม่ที่จะให้ความสำคัญกับเทรนด์เหล่านี้
การแข่งขันรุนแรง รวดเร็วขึ้นทุกวัน การมีเพื่อนร่วมค้าก็สำคัญ อย่างน้อยๆก็เป็นการประกันความเสี่ยง กระจายความเสี่ยง กระจายการวิจัย แบ่งกันคิด แบ่งคนค้นคว้า ช่วยประหยัดงบประมาณด้วย
โลกมันเป็นหนึ่งเดียวกันไปแล้ว พลเมืองโลกก็ถือว่าเกิดขึ้นแล้ว ดังเช่นคำพูดที่นักธุรกิจชอบพูดกันก็คือ… “เพียงผีเสื้อขยับปีก…โลกก็สั่นสะเทือนกันไปทั่ว”
ตั้งหลักกันให้ดีๆนะครับ เพราะการ… “เผาจริง” เกิดขึ้นทุกวัน ทุกเดือน และทุกปี ไม่มีเหมือนเดิมอีกแล้ว!…”
………………………………………