ใจจริงก็ไม่อยากจะไปเขียนอะไรที่ติฉินนินทาพรรคการเมือง…นักการเมือง…ผู้บริหารประเทศชาติเขาหรอก เพราะกลัวเจอหน้ากันแล้วเขาย้อนเอาว่า… “แน่จริงก็มาบริหารประเทศเองสิวะ”
ยิ่งบรรดาข้าราชการแล้ว…กลัวจริงๆเลย กลัวยิ่งกว่านักการเมืองเสียอีก เพราะนักการเมืองมาแล้วก็ไป ถ้าทำไม่ดี บางครั้งก็อยู่ได้สมัยเดียว หรืออาจจะอยู่ไม่ครบ 4 ปีเสียด้วยซ้ำ
แต่…ถ้าเป็นข้าราชการ…คนพวกนี้บางคนอยู่กัน เจอกันเป็น 10 ปี 20 ปีเลย แถมมีอำนาจทางกฎหมายอยู่ในมือ มีพวกพ้องเกี่ยวพันกันหลายกลุ่ม หลายกระทรวง จะกลั่นแกล้งเราทั้งทางตรง ทางอ้อมก็ย่อมได้
…ไหนๆก็จะสิ้นปีแล้ว งวดนี้เอาซะหน่อยพอหอมปากหอมคอละกัน !
ผมว่าปี…2568 ปีนี้ ปีที่กำลังจะสิ้นปีไปแล้วนี่ เป็นปีที่โหดร้ายมาก เพราะมีเรื่องร้ายๆ ที่เรารู้ว่ามีจริง แต่ไม่มีใครออกมาเปิดเผยกันโจ๋งครึ่มเช่นนี้
ถ้าไล่ไปก็เหมือนจะครบทุกวงการที่คนไทยให้เกียรติ เคารพเทิดทูนทั้งสิ้นที่เกิดเรื่องจนเราหมดศรัทธากันไปแล้ว
อาการที่เป็นเช่นนี้ ถ้าเปรียบก็คนเป็นฝี…ก็ต้องเรียกกันว่า…ฝีแตก จนหนองทะลัก
ไม่มียกเว้นวงการใดเลย…ทั้งนักการเมือง พรรคการเมือง ข้าราชการระดับบิ๊กๆในทุกกระทรวง มีข่าวร้ายทั้งสิ้น
ที่ร้ายสุดๆก็วงการสงฆ์ “พระสังฆาธิการ” ตำแหน่งพระภิกษุผู้ปกครอง ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ต้องสึกหาลาเพศ คือลาการเล่าเรียน อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา แปลงเพศไปเป็นอื่นกันเป็นทิวแถว
คงจะไม่มีปีใด มากเท่ากับปีนี้ เพราะผมเกิดมา 70 กว่าปีก็ถือว่านานมากพอที่จะรับรู้ว่า ในอดีตไม่เคยเจอะเจอ จับพระสึกกันมากถึงเพียงนี้
ตำรวจระดับพลตำรวจเอก ออกมาซัดกันแรงๆ ก็ไม่เคยเจอ เพราะคนพวกนี้เขาประเภท “ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่” คือประเภทแมลงวันมันไม่ตอมแมลงวันด้วยกัน
แต่ปีนี้…หนองแตกจนแมลงวันก็ต้องตอมแมลงวันด้วยกันเลย
ล่าสุดก็คนในคุก ในตะราง…ซึ่งเป็นที่สิงสถิตของเหล่าบรรดาคนขาด… “หิริโอตัปปะ” เข้าไปอยู่ร่วมกัน…
เจอไอ้พวกจีนเทา เข้าไปสิงสถิตด้วย…ผู้คุม ผู้บัญชาการเรือนจำก็ตะบะแตกกันจนกล้าทำเรื่องได้เลวร้ายเสียขนาดนี้
ไม่เกรงกลัวฟ้าดินจะลงโทษ ไม่ต้องไปพูดถึงวินัย ข้อกฎหมายใดๆ คนทำผิดได้ขนาดนี้ ไม่มีทางจะเกรงกลัวอะไรอืกแล้ว…!
เด็กนักเรียนตบครู ก็มีให้เห็น ในปีนี้ !
แม่เอาลูกอายุ 12 ปีไปค้าประเวณี ก็มีให้เห็นในปีนี้
ยังเหลือเรื่อง…เขากระโดง…เรื่อง ส.ว.ฉาว จะจบในปีนี้หรือเปล่าก็ยังต้องติดตามกัน จะดูว่ากฎหมายบ้านเมืองจะลงโทษ หรือจะรอให้ฟ้าดิน เทวดาประจำบ้านประจำเมืองลงโทษ ก็ต้องอดทนรอดูกันไป
…ตัวละครทั้งหลายที่สร้างเรื่องเลวร้ายให้สังคมประเทศชาติเราในเวลานี้ ต่างก็มีวุฒิภาวะ วัยวุฒิ คุณวุฒิ ที่มียศ มีวาสนาดีกว่าคนในประเทศตั้งหลายเท่า
จบการศึกษากันมาดีๆทั้งนั้นจากสถาบันที่มีชื่อเสียงของประเทศ ก่อนจบรับปริญญาก็กล่าวคำปฏิญาณเบื้องหน้าพระพักตร์เจ้าฟ้า เจ้าแผ่นดินกันมาทั้งนั้น
ก่อนเข้ารับตำแหน่ง…ก็ต้องได้รับการแต่งตั้ง ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา พระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธยแต่งตั้ง
ทำไม…ไม่เกรงพระราชอาญากันเลย ไม่รักษาชื่อเสียงสถาบันที่ให้การอบรมบ่มนิสัยกันเลย
ไม่มี… “หิริ โอตัปปะ” กันเลย
เพราะอะไรครับพี่น้อง…นี่ขนาดเราทำพิธีกรรมต่างๆอย่างศรัทธา อย่างศักดิ์สิทธิ์ ต่อหน้าฟ้าดิน คนทำผิดที่เป็นข่าวกันหาเกรงกลัวไม่
เราจะพูดได้ไหมว่า…ระบบการศึกษา ระบบการศาสนาในบ้านเมืองของ เราล้มเหลว ?
หรืออย่าไปกล่าวหาสถาบันการศึกษาและ สถาบันสงฆ์เลย เอาเป็น… “กัมมุนา วัตตติ โลโก” สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม” คือกรรมใคร กรรมมัน ใช่ไหมครับ ?
…………………………………………………………



