ผู้ที่ขับขี่ยวดยานบนท้องถนน หลายคนเกิดความสงสัยว่า “เหตุใดรถยนต์สีดำจึงเขียนอักษรไทยไว้บนกระจกหลังว่า รถคันนี้สีน้ำตาลปนเหลือง”
ในกรณีเดียวกัน รถยนต์คันสีขาวก็มีอักษรบนกระจกหลัง ข้อความว่ารถคันนี้สีเขียว
เมื่อพยายามสืบถามผู้สันทัดกรณีก็ได้ความกระจ่างว่า เจ้าของรถยนต์ส่วนหนึ่งซึ่งไม่ใช่ส่วนใหญ่ไปเจอหมอดูผู้หยั่งรู้เรื่องโชคชะตาราศีที่เกี่ยวกับสีรถยนต์กับคนขับหรือ เจ้าของรถ ที่ได้ตรวจดูโชคชะตาราศีของเหยื่อผู้งมงายแล้วพบว่าสีประจำวันเกิดไม่ตรงกับสีของรถยนต์ในครอบครองขับขี่
ครั้นเมื่อแนะนำให้เจ้าของดวงชะตาซื้อรถใหม่หรือขูดสีเก่าออก พ่นสีใหม่ให้ตรงตามสีที่เป็นคุณกับวันเดือนปีเกิด แต่เจ้าของรถหมดทุนที่จะซื้อใหม่หรือพ่นสีใหม่ให้ถูกใจหมอดู หรือให้ต้องตรงตามสีที่เป็นคุณกับวันเกิดตามคำแนะนำชี้ชวนหรือเสี้ยมสอนของหมอดู
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียหน้าหรือเสียเหลี่ยมในการเสี้ยมสอนเหยื่อ หมอดูก็จะแนะนำให้เจ้าของรถเขียนคำว่า รถคันนี้สี…..ซึ่งเป็นสีที่อ้างว่าถูกโฉลกเป็นสีที่เป็นสิริมงคล หรือเป็นสีที่จะให้คุณให้โชคกับเจ้าของรถเป็นการเลี่ยงบาลี เป็นการหลอกภูติผีปีศาจที่จ้องจะทำร้ายเจ้าของรถที่ใช้รถสีไม่ต้องตรงกับวันเกิด ทั้งที่เจ้าของรถก็ไม่ได้แสดงสูติบัตรไว้อย่างเปิดเผยบนกระจกรถยนตร์ด้านใดๆ ว่าเกิดวันอะไร
ที่น่าสงสัยคือภูติผีปีศาจตรวจสอบวันเกิดของเจ้าของรถได้อย่างไร? ในเวลาฉุกละหุกบนท้องถนน ทั้งๆที่บรรดาภูตผีปีศาจระดับพลๆหรือระดับไอ้เณร ก็ไม่น่าจะเข้าถึงข้อมูล สำมะโนประชากรผีได้ง่ายๆและรวดเร็วเช่นนั้น
การขับขี่ครอบครองรถยนต์สีดำที่เขียนถ้อยคำหลอกภูติผีปีศาจหรือนายทะเบียน ของเง็กเซียนฮ่องเต้รถคันนี้สีน้ำตาลปนเหลืองเพราะเจ้าของเกิดวันอาทิตย์อุทัย หรือการโกงฟ้าดินว่ารถสีขาวคันนี้ ที่จริงคือรถสีเขียวขจี เพราะเจ้าของเกิดวันพุธ
แต่พอเจ้าของรถไม่มีเงินขูดสี พ่นสีรถให้เป็นสีใหม่ตามใจหมอดูหรือไม่มีเงินซื้อรถยนต์คันใหม่ให้เป็นสีที่ถูกโฉลกถูกต้องตามวันเกิด จึงต้องโกหกโลก โกหกสังคม โกหกผู้คนที่พบเห็น โกหกภูติผีปีศาจ และโกหกตัวเอง ด้วยถ้อยคำคำโง่ๆอย่างน่าอับอายอย่างยิ่งยวด ว่า….“รถคันนี้สี…..”
การที่ฝูงชนในหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งประกอบอาชีพตัดไม้ทำลายป่าพากันออกมา ตั้งแถวหน้าศาลาประจำหมู่บ้านแล้วตะโกนกู่ก้องร้องเพลงปลุกใจให้สังคมรักป่า รักน้ำ รักธรรมชาติ แล้วตะโกนสาบานเย้ยฟ้าท้าดินว่า พวกเราไม่เคยลักลอบตัดต้นไม้ในป่ามาสร้างบ้านแม้แต่ต้นเดียว ทั้งที่บริเวณที่ตั้งแถวเคยเป็นป่าดงดิบมาก่อน แต่พินาศวอดวายลงด้วยน้ำมือของฝูงชนที่ออกมาตะโกนเหย็งๆ
ก็เป็นกรณีเดียวกับเจ้าของรถ เจ้าของข้อความโกหกโลกนั่นเอง
บก.



