32.8 C
Nakhon Sawan
วันพุธ, ธันวาคม 17, 2025
spot_img

ของขวัญ…แด่ผู้สูงวัย

เหลืออีกเพียง 15 วัน เราก็ได้ฉลองส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่กันแล้ว ผมมีบทความดีๆเอามาฝากท่าน สว.ทั้งหลาย เพราะยุคนี้เป็นยุค…Aged Society คนวัยนี้ ถ้าไม่เข้าใจอะไรก็จะใจน้อย หงุดหงิด เพราะเป็นวัยที่ต้องปรับตัวมาก ถ้าได้อ่านบทความนี้อาจจะทำให้จิตใจดีขึ้น เครียดน้อยลง แล้วอายุจะได้ยืนยาวออกไปอีก

มีประโยชน์มาก บางท่าน หลงทางไปกับความคิดถึง การเปลี่ยนแปลงของร่างกาย คิดว่าตนเองป่วยเป็นโรคหลายอย่าง… แท้จริงแล้วไม่ใช่โรค แต่คือ “ความปกติของวัยชรา”

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในปักกิ่งได้ให้คำแนะนำแก่ผู้สูงอายุไว้ 7 ข้อ ดังนี้

      คุณไม่ได้ “ป่วย”  เพียงแต่คุณแค่ “แก่ขึ้น” เท่านั้น โรคหลายอย่างที่คุณคิดว่าเป็นโรค แท้จริงแล้วเป็นเพียง “สัญญาณของการเสื่อมตามวัย” ของร่างกาย เช่น

  1. ความจำไม่ดี…ไม่ใช่ “อัลไซเมอร์” แต่คือกลไกการป้องกันตัวเองของสมองผู้สูงอายุ อย่าตกใจไป นี่คือ “สมองแก่ลง” ไม่ใช่ “สมองเสื่อม” ถ้าคุณแค่ลืมว่ากุญแจอยู่ไหน แต่สุดท้ายก็หาเจอเองได้ — นั่นยังไม่ใช่ภาวะสมองเสื่อม
  2. เดินช้า หรือขาไม่มั่นคงไม่ใช่ “อัมพาต” แต่คือกล้ามเนื้อเริ่มเสื่อม วิธีแก้ไม่ใช่กินยา แต่คือ “ขยับตัวและออกกำลังกาย”
  3. นอนไม่หลับ ไม่ใช่โรค แต่คือสมองกำลัง “ปรับจังหวะการนอน” เป็นการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของโครงสร้างการนอน อย่ากินยานอนหลับพร่ำเพรื่อ เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการหกล้ม ความจำเสื่อม และภาวะสับสน ยานอนหลับที่ดีที่สุด สำหรับผู้สูงอายุคือ…“ออกไปตากแดดตอนกลางวัน” และ “เข้านอนตื่นนอนให้เป็นเวลา”
  4. ปวดเมื่อยตามร่างกาย ไม่ใช่ “โรครูมาตอยด์” แต่คือ “ปฏิกิริยาปกติของเส้นประสาทที่เสื่อมลงตามวัย”
  5. ปวดแขนขา ปวดไปทั่วตัว หลายคนเข้าใจว่าเป็น “รูมาตอยด์” หรือ “กระดูกงอก”ความจริงคือกระดูกอาจบางลง แต่ 99% ของอาการปวดเหล่านี้ ไม่ใช่โรค แต่เกิดจาก “การส่งสัญญาณของเส้นประสาทที่ช้าลง” ทำให้รู้สึกปวดมากขึ้น เรียกว่า ภาวะประสาทไวเกิน (central sensitization) ไม่จำเป็นต้องกินยาแก้ปวด แต่ควรใช้การออกกำลังกาย + กายภาพบำบัด

แนะนำให้ “แช่เท้า อบอุ่นก่อนนอน (นอนดีกว่า)และนวดเบาๆ” จะได้ผลดีกว่าการกินยาเสียอีก

  1. ผลตรวจสุขภาพผิดปกติ อาจไม่ใช่โรค แต่เป็นเพราะ “เกณฑ์มาตรฐานยังไม่ปรับตามอายุ”

องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำว่าค่ามาตรฐานสุขภาพของผู้สูงอายุควร “ผ่อนคลายมากกว่า” คนหนุ่มสาว เช่น

ค่าคอเลสเตอรอลสูงเล็กน้อยในผู้สูงอายุ ไม่ได้อันตราย กลับช่วยให้อายุยืนขึ้น เพราะคอเลสเตอรอลเป็นวัตถุดิบในการสร้างฮอร์โมนและเยื่อหุ้มเซลล์ถ้าต่ำเกินไปจะทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง

ความดันโลหิต สำหรับผู้สูงอายุไม่จำเป็นต้องต่ำกว่า 140/90 แต่ให้อยู่ที่ ต่ำกว่า 150/90 มม.ปรอท ก็เพียงพอแล้ว

 อย่ามอง “ความแก่” เป็น “โรค” อย่ามอง “การเปลี่ยนแปลง” เป็น “ความผิดปกติ”

  1. “ความแก่” ไม่ใช่โรค แต่มันคือเส้นทางที่ทุกคนต้องเดินผ่าน

สิ่งที่อยากฝากถึงผู้สูงอายุและลูกหลาน

1.จำไว้ว่า: ความไม่สบายบางอย่าง “ไม่ใช่โรค”

2.อย่ากลัว: อย่าตกใจไปกับผลตรวจสุขภาพหรือโฆษณาชวนเชื่อ

3.สิ่งสำคัญที่สุดของลูกหลาน คือ ไม่ใช่แค่พาพ่อแม่ไปโรงพยาบาล แต่คือ “พาเดินเล่น พาออกแดด กินข้าวด้วยกัน พูดคุยกันบ่อยๆ”

         ความแก่ไม่ใช่ศัตรู…แต่ “การหยุดนิ่งไม่ทำอะไรเลย” ต่างหากคือศัตรูที่แท้จริง

ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรงครับ…จะได้ฉลองต้อนรับปีใหม่ ให้สุดสวิง

ซิงกิ้งกันไปเลย

        วัยชรามี 3 ระดับ

  1. วัยชราเริ่มต้นที่อายุ 60 ปี และสิ้นสุดที่ 80 ปี
  2. วัยชราตอนปลาย (หรือ “วัยชราลึก”) เริ่มที่ 80 ถึง 90 ปี
  3. “อายุยืนยาว” คือหลัง 90 ปี จนถึงวาระสุดท้าย

บ่อยครั้งคู่ชีวิตไม่ได้แก่ไปพร้อมกัน — มักมีคนหนึ่งจากไปก่อน เมื่อเหลือตามลำพัง มักรู้สึกว่าตัวเองเป็นภาระของลูกหลาน…ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ “อย่าตัดขาดจากเพื่อน” ต้องพยายามพบปะ พูดคุย ติดต่อกันเสมอ เพื่อไม่ให้ตัวเองกลายเป็นภาระของคนรุ่นหลัง

ผมมีคำแนะนำส่วนตัว… “อย่าสูญเสีย การควบคุมชีวิตตัวเอง หมายถึง…..

ถามและตอบตัวเองให้ได้ว่า….

เราตัดสินใจได้เองหรือไม่? ว่าจะไปไหน…กินอะไร…แต่งตัวยังไง…คุยกับใคร…เข้านอนเวลาไหน…อ่านหนังสืออะไร…ใช้เวลาว่างทำอะไร…จะอยู่ที่ไหน…

เพราะถ้าทำสิ่งเหล่านี้ด้วยตนเองไม่ได้อีกแล้ว…คุณจะกลายเป็น “คนที่อยู่ยาก” และ “เป็นภาระต่อผู้อื่น”

         ถึงเวลานั้น…ก็ต้องวัดใจลูกๆหลานๆกันแล้ว เขารู้จักคำว่า… “กตัญญู” กับพ่อแม่ ปู่ย่าตายายกันรึเปล่า ?

————————

บทความถัดไป

ติดตามเราที่

149แฟนคลับชอบ
spot_img

ข่าวลาสุด