ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์
เมื่อวันพฤหับดีที่ 9 ตุลาคม 2568 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะฯ ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ พร้อมทั้งรับฟังสถานการณ์ทุกภัยในพื้นที่ พบปะพี่น้องเกษตรกรและมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยอำเภอชุมแสง 1,461 ชุด และอำเภอเก้าเลี้ยว 247 ชุด และ รวม 1,708 ชุด โดยมีนายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนร่วมต้อนรับ ทั้งนี้ได้มอบปัจจัยการผลิต พร้อมทั้งมอบหญ้าอาหารสัตว์พระราชทานให้แก่พี่น้องเกษตรกร
จากนั้นได้ลงพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลบางเคียน ตำบลบางเคียน อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์เพื่อพบปะพี่น้องประชาชน พร้อมมอบถุงยังชีพให้แก่พี่น้องผู้ประสบภัยทั้ง 2 ตำบล จำนวน 1,931 ชุด ทั้งนี้ได้รับฟังปัญหาในด้านต่างๆในพื้นที่ โดยเฉพาะเรื่องราคาข้าวที่ตกต่ำ และปัญหาเรื่องน้ำประปาหมู่บ้าน
ในโอกาสนี้ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่าปัญหาเรื่องน้ำที่ท่วมในพื้นที่ชุมแสง เกิดจากสาเหตุปริมาณน้ำในแม่น้ำน่านมีมากกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้พี่น้องในพื้นที่ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งได้สั่งการให้กรมชลประทานมีการรีบระบายน้ำเพิ่มขึ้น และลดปริมาณการปล่อยน้ำจากเขื่อนสิริกิตติ์ลงมาสู่จังหวัดนครสวรรค์ และคาดการณ์ว่าสถานการณ์น้ำจะกลับมาสู่ปกติโดยเร็ว
จากสถานการณ์น้ำในพื้นที่ของจังหวัดนครสวรรค์ มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอุทกภัย จำนวน 6 อำเภอ 26 ตำบล 179 หมู่บ้าน บ้านเรือนทั้งหมดได้รับผลกระทบ 7,788 หลังคาเรือน และพื้นที่การเกษตร 1,126 ไร่ ในส่วนของอำเภอชุมแสงนั้น มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอุทกภัย จำนวน 12 ตำบล 104 หมู่บ้าน บ้านเรือนทั้งหมดได้รับผลกระทบ 5,538 หลังคาเรือน และพื้นที่การเกษตร 552ไร่
ทั้งนี้ทางจังหวัดนครสวรรค์ ได้บูรณาการกับทุกภาคส่วน อาทิ เทศบาลเมืองชุมแสง องค์กรปกครองส่วนตำบล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการป้องกันและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง หลังระดับน้ำในแม่น้ำน่านเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ตั้งแนวกั้นกระสอบทรายบริเวณถนนริมแม่น้ำน่าน เพื่อป้องกันน้ำจากแม่น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในเขตเทศบาล พร้อมทั้งอุดท่อระบายน้ำทิ้งและติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่พร้อมรับมือตลอด 24 ชั่วโมงโดยขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด
………………………………………………………………