ปกติสังคมไทยจะได้เห็นเพียงการทะเลาะเบาะแว้งหรือการวิวาทระหว่างบุคคลกับบุคคล ประชาชนกับข้าราชการ นักการเมืองกับข้าราชการหรือนักการเมืองด้วยกัน หรือนักการเมืองกับประชาชน.
เพิ่งได้พบเห็น ได้ยินพระทะเลาะกับอดีตพระและฆราวาสสอนธรรมะสนั่นโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก ( เครือข่ายสังคม ) และการต่อปากต่อคำ ต่อเนื่องเรื่องราวให้ยืดยาวเป็นสายโซ่ก็แพร่หลายกลายเป็นเรื่องใหญ่โตในวงการพระพุทธศาสนาในช่วงนี้.
กรณีก็เนื่องจาก “ ฆราวาสผู้สอนธรรมะ “ ซึ่งมีความรู้ในทางพระพุทธศาสนาล้มป่วยด้วยโรคภัยไข้เจ็บตามธรรมดาโลก เป็นเหตุให้พระสงฆ์ระดับเปรียญ 9 ประโยคโดดขึ้นธรรมาสน์เทศนาโปรดญาติโยมด้วยการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เพราะเป็นบาปกรรมที่เกิดจากการตำหนิติเตียนพระสงฆ์ โดยอ้างอิง “ ธรรมวจน(ะ) จากสำนักที่เจ้าอาวาสก็กำลังอยู่ในอาการร่อแร่ มากระหน่ำฝูงพระสงฆ์ ( ที่ไม่ค่อยจะมีทรงเป็นพระสงฆ์ : ผู้เขียน )
แล้วพาน (ที่จริงก็พาล ) ไปแขวะอดีตพระเปรียญ 9 ประโยคด้วยกันที่สึกหาลาเพศออกมาเป็นเพศ “ บัณเฑาะก์ “ หรือกะเทยเต็มตัว แล้วจ้องสอนข้อธรรมะ พระธรรมวินัย แก่เวไนยสัตว์ในสังคม ด้วยการเรียกว่าเป็น เกย์คิง เกย์ควีน ตุ๊ดแต๋ว แจ๋วๆ สลิดดก ( ดัดจริต….ภาคเหนือ ) ฯลฯ อย่างเต็มปากเต็มคำ.
ทั้งยังกล่าวซ้ำๆในสื่อมวลชนยุคใหม่หลายๆ แพลตฟอร์ม หลายๆเวอร์ชั่นโดยที่ลีลาการพูด การแขวะ การกระแนะกระแหนของตน ก็ออกแนวตุ๊ดๆ แต๋วๆ ที่เรียกกันว่า “ แอบจิต ”
ยิ่งมีการประกาศรับรองว่า “ อาตมาเป็นแมนเต็มตัว! เพียงแต่สุ้มเสียงของอาตมา เท่านั้นที่จะกระเดียดไปในทางที่จะก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ”
ยิ่งก่อให้เกิดความหวาดระแวงว่า “ น่าจะเป็นตุ๊ดแต๋ว ฯลฯ เหมือนเพื่อนๆ เกย์คิง เกย์ควีน ด้วยกัน ”
นักวิชาการ ( อ้วนๆ ) ทางพุทธศาสนาอีกคนหนึ่งซึ่งถูกพาดพิงว่าเป็น “ กะเทยเฒ่า ” ก็เลยกระแทกหมัดตรงเข้ากระโดงคางพระด้วยคำว่า พระปากแจ๋วรายนี้ก็อยู่ในข่ายกะเทยด้วยกัน ในทำนอง ‘ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ ’
สงครามปากครั้งนี้จึงกลายเป็น สงครามวิวาทะของบัณเฑาะก์ก็ได้สร้างความครื้นเครงให้กับวงการพระพุทธศาสนาได้อย่างสันติสุข สนุกสนาน ครั้นเมื่อมองย้อนกลับไปในเรื่องราวของศีลของธรรมของพระวินัยก็จะเห็นได้ว่า พระได้พูดส่อเสียดหรือเปสุญญวาท ต่อฆราวาส หรือต่อคฤหัสถ์ผู้ครองเรือนซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัท 4 ที่ดูแล โอบอุ้ม ค้ำจุนพระพุทธศาสนาในฐานะอุบาสก
เป็นหนึ่งใน “ วจีทุจริต ” เป็นการประพฤติชั่วในทางพระธรรมวินัยข้อหน้าซึ่งต้องอาบัติปาจิตตีย์ระหว่างสงฆ์ด้วยกัน.
แต่ถ้าพูดส่อเสียดกับอนุปสัมบัน ( สามเณรและคฤหัสถ์ ) จะเป็นอาบัติทุกกฏ
ขนาดร่ำเรียนศึกษาพระพุทธศาสนา พระธรรมวินัยจนได้ เปรียญ 9 ประโยค ยัง “ ปากแจ๋ว ” ถึงเพียงนี้ ถ้ามีการศึกษาต่ำกว่านี้ เธอจะปากแจ๋วๆ แต๋วๆ ตุ๊ดๆ ขนาด ไหน?