28.5 C
Nakhon Sawan
วันศุกร์, พฤษภาคม 23, 2025
spot_img

คุยกับคนเจ้าพระยา

 “ก่อนตาย”

เดือนพฤษภาคม เป็นเดือนที่ 5 ของปี 2568 และของทุกๆปีนั่นแหละ  อยู่ๆผมก็เกิดคิดถึงเรื่อง…”ตาย” ขึ้นมาเฉยๆ เพราะระยะนี้คนรัก คนรู้จักมักคุ้นตายจากกันไปหลายคน  งวดนี้จึงอยากจะเขียนถึงเรื่อง “ตาย” เอามาเป็นธรรมานุสติเตือนแฟนๆกันครับ…(เตือนตัวเองด้วย)

ในเมื่อเราทุกคนรู้กันอยู่เต็มอกว่า…“เกิดมาแล้ว วันหนึ่งก็ต้องตาย มันก็อดกลัวตายไม่ได้” คนก็ยังกลัวตายกันอยู่ทั้งนั้น

ปัญหาที่น่าคิดก็คือเรื่อง…”กลัวตาย” ของคนนั้นจะทำอย่างไรกันดี  ขั้นแรกก็จะต้องพูดกันเสียก่อนว่า  ขณะที่จะตายนั้น  อย่างไรจึงจะเรียกว่าตายเหล่านายแพทย์ใหญ่ๆในโลกนี้ดูเหมือนยังตกลงกันไม่ได้ว่าที่เรียกว่าตายนั้น ตายตรงไหน  ถือเอาว่าหยุดหายใจแล้วเป็นตาย  หรือถือว่าหัวใจหยุดเต้นหยุดชีพจรแล้วเป็นตาย หรือถือว่าเป็นความเคลื่อนไหวของสมองหยุดลงเมื่อไหร่แล้วจึงเรียกว่าตาย

แต่อย่างไรก็ตาม  จะตายตรงไหน  มันก็ยังกลัวตายกันอยู่นั่นเอง ! ครับ…

ในทางศาสนามีความเห็นเป็นอันเดียวกันว่า  ความเชื่อถือในศาสนานั้นแหละที่จะทำให้คนที่ใกล้ตายหมดความกลัวตายลงไปได้   ศาสนาที่เขาเชื่อว่ามีพระผู้เป็นเจ้าก็ถือว่าคนใกล้ตายกำลังจะไปสู่พระผู้เป็นเจ้าในทางพุทธอย่างเรามีความเชื่อว่าหากทำบุญไว้มากในโลกนี้   ตายแล้วก็จะได้ไปสู่ที่ชอบๆ  เพราะฉะนั้นความตายก็ไม่น่ากลัวอะไร

เขียนต่อไปก็จะยืดยาว…สรุปเอาว่า  หลังจากเราตายไปแล้วสิ่งที่น่ากลัวจริงๆคือ  ก่อนตายเราทำอะไรเอาไว้  ถ้าเราทิ้งอะไรไว้ดีแล้วในโลกนี้ทุกอย่างพร้อม  ผมว่าเราจะไม่กลัวตายแน่ถ้าทำความดีไว้มากๆ  ส่วนคนที่ไม่ได้ทำความดีนั่นแหละ…จะกลัวความตายมาก  เช่นเป็นหนี้เป็นสินเขาไว้มาก  หรือไปโกงใครเขาไว้  ไปทำความผิดความชั่วอะไรไว้  ซึ่งจะหลุดออกมา  ทำให้ญาติมิตรพี่น้องครอบครัวต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงเกียรติยศเหล่านี้

ถ้าทิ้งสิ่งเหล่านี้ไว้แล้วละก็ มันก็เห็นจะตายไม่สะดวก  มันก็คงจะต้องกลัวตาย

แต่ถ้าแน่ใจว่าสิ่งที่ตนทิ้งไว้นั้นเป็นเรื่องดีงาม  คนที่อยู่เบื้องหลังเห็นคุณงามความดีที่จะปรากฎต่อไป  เป็นชื่อเสียงเกียรติยศแก่บุตรหลาน  ความดีของคนตายจะช่วยให้คนรักของตนมีความเจริญงอกงามต่อไปในชีวิต  เพราะจะมีคนคอยอุปการะช่วยเหลือ  ถ้ามีความรู้สึกเช่นนี้  คนที่จะตายเห็นจะไม่กลัวตายแน่

เพราะฉะนั้นคนที่จะกลัวตายหรือไม่  ไม่ได้อยู่ที่ว่าตายแล้วจะได้รับอะไร  และไม่ได้อยู่ที่ตายแล้วจะไปไหน  แต่อยู่ตรงที่ว่า…”ตายแล้วจะทิ้งอะไรไว้เบื้องหลัง”

สุดท้ายครับ…เชื่อที่พระพุทธเจ้าของเราสอนเราไว้ว่า…ก่อนที่พุทธองค์จะเข้านิพพานก็ได้ทรงสั่งสงฆ์สาวกไว้ว่า…”ภิกษุ ทั้งหลาย จงตั้งอยู่ในความไม่ประมาท หมายความว่า ชีวิตของเราตราบใดที่เรายังมีลมหายใจอยู่นั้น เราจะประมาทความตายไม่ได้”

จึงต้องทำความดีให้พร้อม  เอวัง !… ก็มีด้วยประการะเช่นนี้ !

———————————

ติดตามเราที่

149แฟนคลับชอบ
spot_img

ข่าวลาสุด